Money DIY 4.0 by SCBAM : ESG มิติของการลงทุนที่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

24 พฤศจิกายน 2563

       ในสภาวะปัจจุบันที่เกิดความเปลี่ยนแปลงและผันผวนด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกต่างหันมาให้ความสนใจกับแนวทางการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investing) มากขึ้น ซึ่งเป็นรูปแบบการลงทุนที่คำนึงถึงความยั่งยืนในระยะยาวของเงินที่ลงทุนไป โดยให้ความสำคัญต่อปัจจัยที่ส่งผลต่อความอยู่รอดและความสามารถในการเติบโตของธุรกิจ ควบคู่ไปกับความยั่งยืนของสังคมภายนอกในระยะยาว

       การลงทุนในหุ้นยั่งยืนนั้นมีการคำนึงถึงปัจจัยหลัก 3 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) หมายถึง บริษัทมีนโยบายในการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจรวมถึงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่มีผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท ปัจจัยด้านสังคม (Social) หมายถึง การที่บริษัทมีนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน มีการส่งเสริมและพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่อง และมีคุณภาพ และปัจจัยด้านบรรษัทภิบาล (Governance) หมายถึง การที่บริษัทมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความโปร่งใสในการดำเนินงาน ซึ่งการลงทุนในหุ้นยั่งยืนจะต้องมีการลงทุนในหุ้นที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเหล่านี้

       ในกรอบเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้น หลายองค์กรมักอ้างอิงถึง UN’s Sustainable Development Goals (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งประกอบไปด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 เป้าหมาย เช่น โลกต้องปราศจากความยากจน ไม่มีผู้หิวโหย มีสุขภาพความเป็นอยู่ที่ดี มีการศึกษาที่ดี มีความเท่าเทียมสำหรับทุกเพศ มีน้ำดื่มสะอาด มีพลังงานสะอาดในราคาที่เหมาะสม มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน สิ่งมีชีวิตในน้ำและบนบกได้รับการดูแล ฯลฯ  โดยทั้งหมดนี้จะกลายเป็น framework ที่ทำให้การวิเคราะห์การลงทุนอย่างยั่งยืนมีมิติในการวิเคราะห์ที่หลากหลายมากไปกว่าแค่ผลประกอบการที่เป็นมูลค่าเงิน โดยมักมีเวลาหรือ time horizon ที่สั้นกว่าการใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม ฯลฯ  ซึ่งถ้าทุกฝ่ายช่วยกันตั้งแต่นักลงทุน นักวิเคราะห์ ผู้จัดการกองทุน ย่อมส่งผลกดดันเชิงบวกให้บริษัทมองเห็นความสำคัญและลงมือปรับตัวเพื่อความยั่งยืนของสังคม สิ่งแวดล้อม และใส่ใจผู้ที่มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งบริษัทเองตลอดจนสังคมในระยะยาว

 

       

       ปัจจุบันการลงทุนอย่างยั่งยืนเป็นที่ยอมรับจากผู้ลงทุนทั่วโลกและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างในยุโรปและสหรัฐฯ สำหรับในประเทศไทยการลงทุนอย่างยั่งยืนก็เป็นที่นิยมเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในกลยุทธ์การลงทุนที่ใช้ข้อมูล ESG โดยมีนโยบายลงทุนในบริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมุ่งหวังผลตอบแทนแบบยั่งยืนในระยะยาว จึงได้มีมีการจัดตั้ง “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย” ซึ่ง บลจ.ไทยพาณิชย์ ก็เป็นหนึ่งในนั้นและนำเสนอขายกองทุนประเภทนี้ด้วย

       สำหรับหุ้นที่จะได้รับการคัดเลือกมาอยู่ใน Thai CG Universe ต้องผ่านตะแกรงร่อนหลายชั้น เช่น เป็นกลุ่มหุ้นที่สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) จัดอันดับให้ 4 ดาวขึ้นไป ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงบรรษัทภิบาลที่ดี และได้รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (Collective Action Coalition หรือ CAC) และต้องมีคุณสมบัติด้าน ESG ที่ดี

       นอกจากเป็นการสร้างความตระหนักและส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนมีความใส่ใจในปัจจัยเหล่านี้มากขึ้น ยังควบคู่กับการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดและเป็นผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นอีกแรงผลักดันไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย

 

โดย คุณณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย​
        ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร​
        บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด