นักลงทุนเข้าซื้อ “SCBGPLUS – SCBPLUS” เม็ดเงินไหลเข้ากว่า 33,000 ล้าน

29 กรกฎาคม 2559

       นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนของบลจ.ไทยพาณิชย์ขณะนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนที่สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ลงทุนและได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลอินคัมพลัส (SCBGPLUS) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ อินคัมพลัส (SCBPLUS) ซึ่งนับตั้งแต่เปิดเสนอขายมีเม็ดเงินไหลเข้ามารวมกันแล้วกว่า 33,300 ล้านบาท (ณ วันที่ 11 ก.ค. 2559)

       ทั้งสองกองทุนดังกล่าวถือเป็นกองทุนประเภท Multi-Asset Income ที่มีนโยบายผสม และมีการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เน้นบริหารเพื่อสร้างรายได้และมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ

       สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลอินคัมพลัส (SCBGPLUS) นับตั้งแต่เริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 26 ม.ค. – 1 ก.พ. 2559 ด้วยมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท และได้มีการจดทะเบียนเพิ่มทุนอีก 3 ครั้ง จนทำให้ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 11 ก.ค. 2559 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมกว่า 17,300 ล้านบาท ขณะเดียวกันกองทุนยังได้มีการรับซื้อคืนอัตโนมัติหน่วยลงทุน (Auto redemption) เป็นรายเดือนจากผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้วจำนวน 5 ครั้ง รวม 0.2552 บาทต่อหน่วย ตามนโยบายกำหนดไม่เกินปีละ 12 ครั้ง ซึ่งกองทุนนี้สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ

       ทั้งนี้ SCBGPLUS มีนโยบายเน้นลงทุนต่างประเทศ ผ่านการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ Deutsche Invest I Multi Opportunities: Share Class USD LDMH ในสกุลเงิน USD โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน บริหารงานโดย Deutsche Asset & Wealth Management ซึ่งกองทุนจะลงทุนอย่างน้อย 51% ของมูลค่าสินทรัพย์ในหน่วยลงทุนของกองทุนประเภทต่างๆ อาทิ กองทุนตราสารทุน กองทุนผสม กองทุนตราสารหนี้และกองทุนตลาดเงิน เป็นต้น

       นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน กล่าวว่า ในส่วนของกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ อินคัมพลัส (SCBPLUS) นั้น เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนสินทรัพย์ภายในประเทศ โดยเน้นลงทุนในหุ้นกู้เอกชน และกองทุนอสังหาริมทรัพย์หรือกองทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศและอาจลงทุนหุ้นในประเทศเพื่อรับเงินปันผล โดยมีการจดทะเบียนเพิ่มทุนอีก 4 ครั้ง นับจากการเปิดเสนอขายครั้งแรกและปิดเสนอขายภายในวันเดียวกัน เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2559 ที่ผ่านมาด้วยยอดขายเกินกว่ามูลค่าโครงการที่ 5,750 ล้านบาท โดยในปัจจุบันกองทุน SCBPLUS มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 15,550 ล้านบาท และ ณ วันที่ 11 ก.ค. 2559 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมกว่า 15,900 ล้านบาท

       ขณะเดียวกันกองทุนยังได้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Auto redemption) จากผู้ถือหน่วยลงทุนแล้วจำนวน 1 ครั้ง รวม 0.0755 บาทต่อหน่วย ตามนโยบายการลงทุนที่ให้มีการรับซื้อคืนอัตโนมัติกำหนดไตรมาสละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ยังเตรียมที่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติครั้งต่อไปในวันที่ 20 ก.ย. 2559 ซึ่งกองทุนนี้สามารถซื้อได้ทุกวันทำการและขายได้ไตรมาสละ 1 ครั้ง

       "บลจ.ไทยพาณิชย์มองว่าในขณะที่สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกที่ยังมีความผันผวน การลงทุนที่มีการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนการลงทุนได้ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งเพียงสินทรัพย์เดียวหรือลงทุนในประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น กองทุน SCBGPLUS และกองทุน SCBPLUS จะเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง" นายสมิทธ์ กล่าว

กองทุน

ที่น่าสนใจ

SCBLEQ

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้น LOW VOLATILITY
(ชนิดจ่ายเงินปันผล)

SCBLEQA

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้น LOW VOLATILITY
(ชนิดสะสมมูลค่า)

SCBRMLEQ

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้น Low Volatility เพื่อการเลี้ยงชีพ

SCBGEARA

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล อิควิตี้ แอพโซลูท
รีเทิร์น (ชนิดสะสมมูลค่า)

SCBSPICYA

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มิกซ์ สไปซี่ (ชนิดสะสมมูลค่า)

SCBINCA

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ อินคัม
(ชนิดสะสมมูลค่า)

SCBINCR

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ อินคัม
(ชนิดรับซื้อคืนอัตโนมัติ)

SCBROBOA

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลโรโบติกส์ (ชนิดสะสมมูลค่า)