ลงทุนน้อยทยอยสะสม เป้าหมายไหนก็ไปถึง เลือกออมเงินด้วยการลงทุนในกองทุน e-class คุณภาพ ฟรีค่าธรรมเนียม!
วิธีการออมเงินให้ไปถึงเป้าหมายมีหลากหลายรูปแบบ แต่ทางเลือกที่น่าสนใจ และสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ คือ การออมเงินผ่านการลงทุนกองทุนรวม เพราะมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากประจำ ถึงแม้จะไม่มีความรู้เฉพาะทางก็สามารถลงทุนได้ เพราะมีมืออาชีพคอยบริหารกองทุนให้กับเรา
แต่แน่นอนว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ทุกการลงทุนไม่ได้หมายความว่าจะได้กำไรตลอด ดังนั้น วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้เราสามารถลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ในอีกวิธีหนึ่ง คือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (Dollar Cost Average หรือ DCA) ที่สามารถเริ่มต้นออมเงินด้วยเงินหลักพันต่อเดือน แต่สามารถทำให้เรามีเงินเก็บหลักล้านได้
การลงทุนแบบ DCA หรือ Dollar Cost Average คือ การทยอยลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่า ๆ กันในแต่ละเดือน หรือในความถี่ตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น ลงทุน 1,000 บาท ทุกวันที่ 15 ของทุกเดือน โดยไม่สนใจสถานการณ์ตลาด ไม่ว่าตลาดจะขึ้น หรือจะลง เพื่อเป็นการถัวเฉลี่ยต้นทุน ข้อดีคือ นอกจากเราจะไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่แล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยง และความผันผวนจากการเข้าลงทุนผิดจังหวะในช่วงที่ตลาดผันผวน แถมยังช่วยสร้างวินัยในการออมอีกด้วย
เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ เลยว่าทำไมการลงทุนแบบ DCA ถึงสามารถไปถึงเป้าหมายได้ไวกว่าการออมเงินผ่านการฝากออมทรัพย์ สมมติเราเก็บเงินเดือนละ 5,000 บาทผ่านการฝากออมทรัพย์ ที่ให้อัตราดอกเบี้ยแค่ประมาณ 0.1250-2.0000%* ต่อปี ต้องใช้เวลาถึง 17 ปี(1) (อ้างอิงดอกเบี้ย 0.30% ต่อปี) ถึงจะได้จับเงินล้าน แต่ถ้าเราเลือกออมเงินผ่านการลงทุนกองทุนรวมแบบ DCA เดือนละ 5,000 บาท ประมาณการผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 6% จะใช้เวลาเพียง 12 ปีเท่านั้น! (2) ดังนั้น วิธีการออมเงินผ่านการลงทุนกองทุนรวมแบบ DCA จึงเหมาะกับผู้ที่พึ่งเริ่มลงทุนที่ยังมีทุนไม่มากนัก และต้องการผลตอบแทนมากกว่าการฝากออมทรัพย์ และผู้ที่ไม่มีเวลามานั่งเฝ้าติดตามสถานการณ์ตลาด
*ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 https://www.bot.or.th/th/statistics/interest-rate.html
อ้างอิงวิธีคำนวณ : (1) https://www.bot.or.th/th/satang-story/financial-tools/savings-tools.html และ (2)https://moneysart.com/tools/dca/
เป้าหมายไหนก็ไปถึง กองทุน e-class ฟรีค่าธรรมเนียม
เมื่อเรารู้วิธีการไปถึงเป้าหมายแล้ว ดังนั้น เรามาดูวิธีการวางแผนการลงทุน เพื่อที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายนั้นผ่าน 3 วิธีการง่าย ๆ ดังนี้
Step 1: ตั้งเป้าหมายการลงทุน
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เราสามารถไปถึงเป้าหมายได้ คือ การตั้งเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจน ซึ่งเป้าหมายนั้น ไม่จำเป็นต้องใหญ่มาก อาจจะเป็นการตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ก่อน เช่น เก็บเงินไปซื้อบัตรคอนเสิร์ตแถวหน้าสุด หรืออยากมีเงินก้อนจัดทริปไปนั่งดูซากุระที่ญี่ปุ่น หรือจะมีเป้าหมายใหญ่กว่านั้น เช่น ดาวน์รถในฝัน หรือมีเงินเก็บหลักล้าน เป็นต้น ซึ่งแต่ละเป้าหมายก็ต้องมีการวางงบประมาณที่ต้องการให้ชัดเจน เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นขอยกตัวอย่างเป้าหมาย & งบประมาณตั้งแต่เล็ก - กลาง - ใหญ่คร่าว ๆ ดังนี้
Step 2: วางแผนการลงทุนในแต่ละเดือน
เมื่อมีเป้าหมาย และกลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA ที่ชัดเจนแล้ว เรามาวางแผนกันว่าเราจะออมเดือนละเท่าไหร่ และใช้เวลาถึงเป้าหมายนั้นกี่ปี ซึ่งตามหลักการแล้วเราควรออมเงินไม่ต่ำกว่า 15% ของรายได้ ดังนั้น หากคุณมีเงินเดือน 40,000 บาท ก็ควรหักเงินไปลงทุนประมาณเดือนละ 5,000 บาท ยกตัวอย่างการวางแผนการออมเงินตามตารางด้านล่าง
ออมเงินใน เงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป |
ลงทุนในกองทุน ตราสารหนี้ทั่วโลก |
ลงทุนในกองทุน หุ้นไทยที่อิงดัชนี SET50 |
ลงทุนในกองทุน หุ้นต่างประเทศที่อิงดัชนี S&P500 |
|
ผลตอบแทน รายปี (%) |
0.30%** (อ้างอิง อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป ธนาคารไทยพาณิชย์ วันที่ 5/6/24) |
1.24%*** (อ้างอิงผลตอบแทนเฉลี่ยรายปี ย้อนหลัง15 ปี ของดัชนี Bloomberg Global-Aggregate Total Return Index Value Unhedged USD ตั้งแต่ 29/05/2009 - 31/05/2024) |
8.38%*** (อ้างอิงผลตอบแทนเฉลี่ยรายปี ย้อนหลัง15 ปี ของดัชนี SET50 ตั้งแต่ 29/05/2009 - 31/05/2024) |
14.53%*** (อ้างอิงผลตอบแทนเฉลี่ยรายปี ย้อนหลัง15 ปี ของดัชนี S&P500 ตั้งแต่ 29/05/2009 - 31/05/2024) |
เงินออม/เดือน | 5,000฿ | |||
ระยะเวลา (ปี) | 3 ปี | |||
เงินสะสมสิ้นงวด | 181,082.16 ฿ (1) | 183,371.12 ฿ (2) | 203,697.02 ฿ (2) | 222,489.84 ฿ (2) |
ผลลัพธ์เป็นเพียงตัวเลขประมาณการเท่านั้น
อ้างอิงวิธีคำนวณ : (1) https://www.bot.or.th/th/satang-story/financial-tools/savings-tools.html และ (2)https://moneysart.com/tools/dca/
***อ้างอิงตัวเลขประมาณการผลตอบแทนข้อมูลจาก Bloomberg as of 28 May 2024
ตารางดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ หากอยากย่นระยะเวลาให้ไปถึงเป้าหมายไวขึ้น ก็สามารถปรับเงินออม/เดือนให้มากขึ้นได้ หรือจะเลือกกองทุนที่ให้ผลตอบแทนรายปี (%) ที่สูงขึ้นก็ได้ตามตัวอย่างที่ระยะเวลา และเงินออมเท่ากัน แต่ผลตอบแทนต่างกันก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งผลตอบแทนรายปีก็จะขึ้นอยู่กับประเภทกองทุน และสินทรัพย์ที่เลือกลงทุน ซึ่งในโลกของการลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนสินทรัพย์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้ ตลาดเงิน หุ้น ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น แน่นอนว่าการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนที่สูง ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน ดังนั้น หากเป็นสายเซฟก็สามารถเลือกลงทุนกองทุนรวมตราสารหนี้ (ดูรายละเอียดกองทุนตราสารหนี้จาก SCBAM ได้ที่นี่) หรือถ้าหากเป็นสายเปรี้ยวขึ้นมาหน่อยที่รับความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้น ก็อาจจะเลือกกองทุนดัชนี หรือ Index Fund ที่มีทั้งหุ้นไทย และต่างประเทศเป็นกองทุนประเภท Passive Fund ที่ผลตอบแทนจะล้อไปตามดัชนีอ้างอิงของกองทุนนั้น โดยสามารถติดตามสถานการณ์ตามดัชนีอ้างอิงของกองทุนนั้นได้เลย (ดูรายละเอียดกองทุนดัชนี หรือ Index Fund จาก SCBAM ได้ที่นี่)
แต่ถ้าหากไม่สามารถปรับเงินออมมากขึ้นได้ หรือไม่สามารถรับความเสี่ยงได้สูงมาก วันนี้เรามีอีกหนึ่งเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถย่นระยะเวลาให้ถึงเป้าหมายเร็วขึ้น โดยไม่ต้องเพิ่มเงินออม/เดือน หรือรับความเสี่ยงที่สูงขึ้น ไปดูกันเลย !
Step 3: เลือกกองทุนที่เหมาะสม & คุ้มค่า
เคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้คุณถึงเป้าหมายนั้นไวขึ้น คือการ “ประหยัดค่าธรรมเนียม” เพราะการลงทุนผ่านกองทุนรวม ทุกผลตอบแทนที่เราได้รับ จะถูกคิดค่าธรรมเนียมเสมอ ดังนั้น การไม่โดนหักค่าธรรมเนียมจะช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนแบบเต็มมูลค่า และไปถึงเป้าหมายได้ไวขึ้นนั่นเอง
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ คือ ถ้าผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 10% มีค่าธรรมเนียมการจัดการ 1% เท่ากับว่าผลตอบแทนจริงที่เราจะรับคือ 9% ต่อปี ซึ่งค่าธรรมเนียมการจัดการ 1% ที่เราประหยัดไปได้ ยิ่งเป็นการลงทุนระยะยาวหลายปี อาจคิดเป็นเงินหลักล้านได้เลยทีเดียว ตามตารางด้านล่างจะเห็นได้ว่า การไม่โดนหักค่าธรรมเนียมเพียง 1% ก็สามารถประหยัดเงินไปได้ถึง 400,585.47 บาทเลยทีเดียว
เงินออม/เดือน |
5,000฿ |
ผลตอบแทนรายปี (%) |
10% |
ระยะเวลา (ปี) |
20 |
เงินสะสมสิ้นงวด |
3,608,324.97฿ |
เงินออม/เดือน |
5,000฿ |
ผลตอบแทนรายปี (%) |
9% |
ระยะเวลา (ปี) |
20 |
เงินสะสมสิ้นงวด |
3,207,739.50฿ |
หมายเหตุ: *ประมาณการค่าธรรมเนียมการจัดการที่ 1%
ดังนั้น “การประหยัดค่าธรรมเนียม” ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณมีโอกาสรับผลตอบแทนมากขึ้น และช่วยย่นระยะเวลาให้ถึงเป้าหมายเร็วขึ้นนั่นเอง จึงควรเลือกลงทุนกองทุนรวมที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ หรือไม่มีเลย อย่างกองทุน e-class ที่ฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อ และการจัดการ
กองทุน e-class เป็นกองทุนที่ Exclusive เฉพาะ SCBAM Fund Click จากบลจ.ไทยพาณิชย์ ที่ออกมาเพื่อส่งเสริมให้ผู้ลงทุนสามารถเริ่มลงทุนได้ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำ และมูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้นที่ไม่มาก ภายใต้แนวคิด “ลงทุนน้อย ทยอยสู่เงินล้าน” ซึ่งมีความพิเศษที่แตกต่างจากกองปกติทั่วไป คือ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะเห็นว่า กุญแจสำคัญมี 3 ส่วน คือ การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และการเลือกกองทุนที่เหมาะสม & คุ้มค่า รับรองว่าไม่ว่าเป้าหมายไหนก็สามารถไปถึงได้อย่างแน่นอน ขอแค่ต้องเริ่มต้นลงทุน เพราะเริ่มออมเร็วเท่าไหร่ ผลตอบแทนจะยิ่งเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร. 0 2777 7777 www.scbam.com
#วางแผนการลงทุน #เป้าหมายการลงทุน#กองทุนรวม#DCA #กองทุน e-class