SHARE
“เศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวสะท้อนจากตัวเลข PMI ที่อยู่ในแดนขยายตัว”
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายทางการเงินที่มีแนวโน้มผ่อนคลายกว่าเดิม หลังจาก Fed ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน โดยจะปล่อยให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2% ส่งผลให้ดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้รัฐบาลหลายประเทศทั่วโลกสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดได้ดี พร้อมกับการพัฒนาวัคซีน อย่างไรก็ตามความตึงเครียดเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอาจกลับมากดดันเศรษฐกิจอีกครั้ง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เตรียมประกาศขอบเขตและเงื่อนเวลาการห้ามใช้ Application จีน โดยคาดว่าวันที่ 20 ก.ย. จะมีรายละเอียดการห้ามใช้พวก Wechat และ Tiktok ขณะที่บริษัทที่สนใจซื้อ TikTok กำลังหาวิธีการเข้าซื้อธุรกิจ เช่น ซื้อเฉพาะธุรกิจในสหรัฐที่ไม่มี software หรือซื้อระบบปฏิบัติการที่เป็น Algorithm หลังจากช่วงที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศขึ้น บัญชีดำกับบริษัทจีน 24 แห่งเนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีส่วนร่วมให้หน่วยงานทหารของจีนในการก่อสร้างและมีกิจกรรมทางทหารใน “ทะเลจีนใต้”
ดัชนี PMI ภาคการผลิตอย่างเป็นทางการของทั่วโลกเดือน ส.ค. ยังอยู่ในแดนขยายตัว โดยดัชนี ISM ของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 1.8 จุด สู่ระดับที่ 56.0 จุด ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018 และดัชนีโดย Caixin ของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 0.3 จุด เป็นระดับ 53.1 จุด ขณะที่ดัชนีของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 2.0 จุด สู่ระดับที่ 47.2 จุด ซึ่งสูงสุดในรอบ 6 เดือน ส่วนดัชนี PMI ของยูโรโซนจะปรับตัวลดลง -0.1 จุดเป็น 51.7 จุด แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยดัชนี PMI ทั่วโลกสามารถฟื้นตัวได้มาจากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตและยอดคำสั่งซื้อใหม่
ตัวเลขยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นเดือนก.ค. กลับมาติดลบ โดยตัวเลขลดลงจากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 13.1%MoM มาอยู่ที่ระดับ -3.3%MoM ซึ่งตัวเลขเดือนมิ.ย. ออกมาพุ่งสูงเกิดจากอุปสงค์ที่ดีขึ้นหลังจากที่มีการ lockdown ในช่วงก่อนหน้า และหนุนโดยการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของยอดขายรถยนต์ แต่ในเดือนก.ค. ยังได้รับความกังวลจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ระลอกสอง
ตัวเลขการจ้างงานเอกชนของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ผลสำรวจโดย ADP ในเดือน ส.ค. ตัวเลขปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.28 แสนราย เทียบกับเดือนที่แล้วเพิ่มขึ้นเพียง 2.12 แสนราย สะท้อนถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานที่อ่อนแอหลังสถานการณ์ COVID-19 เริ่มกลับมารุนแรงขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ (SCBEMBOND)
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นอินเดีย (SCBINDIA)
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นจีนเอแชร์ (SCBCHA)
“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารหนี้ US Short Duration High Income (SCBUHYA)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลสตราทีจิก อินเวสเมนท์ (SCBGSIF)
