ในช่วงก่อนวิกฤตโรคระบาด Covid-19 หลายบริษัททั้งประเทศและต่างประเทศต่างก็ให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ หรือที่เราได้ยินกันคุ้นหูว่า “work from home” จนในปัจจุบันประเทศไทยสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ บางบริษัทก็ยังคงให้ทำงานจากที่บ้านอยู่เหมือนเดิม
นอกจากนี้ ยังได้ปรับเปลี่ยนจาก work from home เป็น work from anywhere เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในรูปแบบ New Normal ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ที่จะเป็นความหวังในการพลิกฟื้นการท่องเที่ยวไทยได้อีกทางหนึ่งด้วย
ในขณะที่การทำงานในรูปแบบใหม่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในยุคนี้ แต่ก็ยังมีหลายบริษัทที่ยังชั่งใจว่าจะออกนโยบายให้พนักงานสามารถ work from anywhere ได้ดีหรือไม่ เพราะกังวลว่าผลิตภาพในการทำงานจะลดลง ทว่า หากอ้างอิงตามผลการศึกษาของคณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่มาจากการติดตามพนักงานออฟฟิศบริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของจีนเป็นเวลา 2 ปี พบว่า คนที่ทำงานอยู่บ้าน “งานเดิน” มากกว่าคนที่ทำงานในสำนักงานถึง 13% ส่วนผลสำรวจเมื่อปี 2562 ของแพลตฟอร์มงานฟรีแลนซ์ “แอร์ทาสเกอร์” (Airtasker) พบว่า พนักงานที่ทำงานจากนอกออฟฟิศทำงานมากกว่าพนักงานในออฟฟิศ 1.4 วันต่อเดือน และลูกจ้างที่ทำงานจากบ้านมีเวลาพักในแต่ละวันมากกว่า ซึ่งช่วยเพิ่มผลิตภาพในการทำงานได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังทำให้พนักงานได้มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น และมีกิจกรรมร่วมกับครอบครัวเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ควรตระหนักถึงนอกเหนือจากการบริหารเวลานั้น คือเรื่องของการบริหารเงินที่ควรบริหารให้อยู่หมัด ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายจากการเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศจะลดลง แต่ก็มีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นที่เพิ่มขึ้นด้วย เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าโทรศัพท์ ค่าไฟ ค่าอาหารที่สั่งจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ ค่าท่องเที่ยว (ในกรณีที่เปลี่ยนรูปแบบเป็น work from anywhere) หรือแม้กระทั่งการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ เป็นต้น
ผมขอฝากเทคนิคการบริหารจัดการเงินง่าย ๆ ในช่วง work from anywhere หรืออาจจะนำไปใช้ได้ตลอดสำหรับการวางแผนการเงิน ดังนี้
ถึงแม้ว่าเราจะ work from home หรือว่า work from anywhere เราก็ควรปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งจะช่วยให้การใช้ชีวิตของเราดีขึ้นเป็นอย่างมาก และอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ Work Life Balance ด้วยนะครับ
โดย คุณอาชวิณ อัศวโภคิน
Chief Marketing Officer สายการตลาดและช่องทางการขาย
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด