Worldwide Wealth by SCBAM : การจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม

25 กันยายน 2561

         ในช่วงนี้ท่านนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนรวมประเภทตราสารหนี้อาจจะต้องสะดุ้งเล็กๆ เพราะต่อไปนี้กองทุนรวมประเภทตราสารหนี้จะโดนเก็บภาษีดอกเบี้ยรับแล้วนะครับ ซึ่งนั่นก็หมายความถึงผลตอบแทนรวมที่ได้จากการลงทุนที่จะลดลงจากภาษีที่โดนจัดเก็บเพิ่ม

         เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้จัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม ในอัตรา 15% ในส่วนของรายได้ประเภทดอกเบี้ย ส่วนลด (Discount) และเงินได้ที่มีลักษณะเดียวกันกับดอกเบี้ย ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ประกาศวันที่มีผลใช้บังคับแน่นอน แต่คาดว่าจะเป็นภายในปี 2561 นี้

         ทั้งนี้ ทางคณะรัฐมนตรีมีเหตุผลว่า เพื่อสร้างความเป็นธรรมและความเท่าเทียมกันในระบบภาษี ระหว่างการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวมกับการลงทุนในตราสารหนี้โดยตรง เนื่องจากในปัจจุบันสำหรับท่านนักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา เวลาฝากเงินกับธนาคาร หรือลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ต่างๆ จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ ในขณะที่หากลงทุนผ่านกองทุนรวมประเภทตราสารหนี้จะได้รับยกเว้นภาษีในส่วนนี้

         อย่างไรก็ดี เพื่อไม่ทำให้ท่านนักลงทุนที่เป็นผู้ถือหน่วยลงทุนต้องมีภาระในการคำนวณและยื่นภาษีเพิ่มขึ้น การเก็บภาษีดอกเบี้ยรับนี้ จึงกำหนดให้เป็นหน้าที่ของกองทุนรวมเองที่จะเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ในส่วนของรายได้ประเภทดอกเบี้ย ส่วนลด (Discount) และเงินได้ที่มีลักษณะเดียวกันกับดอกเบี้ย โดยกำหนดให้ผู้จ่ายเงินได้ หรือผู้ออกตราสารที่กองทุนรวมไปลงทุน เป็นผู้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 15% และนำส่งกรมสรรพากรเลย เช่นเดียวกับเวลาที่ท่านฝากเงิน หรือลงทุนโดยตรงในตราสารหนี้นั่นเองครับ

         แต่ท่านนักลงทุนอย่าเพิ่งตกใจมากไปนะครับ สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล หากลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ แล้วได้รับเงินส่วนแบ่งของกำไร (Capital gain) จากการลงทุน เงินส่วนนี้ยังคงได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ทั้งจำนวนเหมือนเดิม รวมถึงท่านนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ยังได้ยิ้มออกอย่างต่อเนื่องนะครับ เพราะกองทุนประเภท RMF จะยังได้รับยกเว้นภาษีในส่วนดอกเบี้ยรับเช่นเดิม เพื่อเป็นการส่งเสริมการออมเพื่อการเกษียณอายุ นอกจากนี้ กองทุนรวมที่ฝากเงินหรือลงทุนในตราสารหนี้ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับ รวมถึงดอกเบี้ยและส่วนลดของตราสารหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับ จะยังได้รับการยกเว้นภาษีดอกเบี้ยรับอยู่ด้วยครับ

         สรุปให้เข้าใจโดยง่ายๆ ก็คือ หลังกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้กับกองทุนรวมประเภทตราสารหนี้ เวลาท่านไปลงทุนในเงินฝาก หรือตราสารหนี้ต่างๆ จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ ส่งผลให้ผลตอบแทนรวมของกองทุนลดลงจากภาษีที่โดนจัดเก็บเพิ่ม ผมขอยกตัวอย่างประกอบเพื่อให้ท่านได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น กองทุนประเภท Term fund อายุ 1 ปี เดิมมีประมาณการณ์ผลตอบแทนอยู่ที่ 1.85% ต่อปี เมื่อต้องเสียภาษีดอกเบี้ยรับ 15% ผลตอบแทนคาดการณ์ของกองทุนจะลดลงอยู่ที่ 1.58% ดังนั้นท่านผู้ถือหน่วยลงทุนก็จะได้รับผลตอบแทนที่ประมาณ 1.58% ครับ

         แต่อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของการลงทุนในตราสารหนี้ หรือสินทรัพย์ปรเภทใดก็ตาม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องภาษีแต่เพียงอย่างเดียวนะครับ การศึกษาข้อมูลอื่นๆ ประกอบ และความเสี่ยงตามที่เรายอมรับได้ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายการลงทุนด้วยเช่นกันนะครับ

 

โดย  คุณณรงค์ศักดิ์  ปลอดมีชัย​
        ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
        บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด​