Worldwide Wealth by SCBAM : เปิดมุมมอง-โอกาสลงทุน ‘ตลาดหุ้นจีน’ ปี 2024

13 มิถุนายน 2567

            ภูมิทัศน์การลงทุนทั่วโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นักลงทุนที่มีความชำนาญก็มักจะมองหาช่องทางที่มีโอกาสลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนสูง ซึ่งในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ‘ตลาดหุ้นจีน’ หนึ่งในตลาดหุ้นที่นักลงทุนสนใจก็ปรับตัวค่อนข้างมาก โดยเฉพาะปี 2023 ที่แม้ว่าตลาดหุ้นโลกจะปรับตัวขึ้นประมาณ 20% แต่ตลาดหุ้นจีนกลับปรับตัวลดลงประมาณ 14% ทำให้ปัจจุบันนักลงทุนมีความกังวลกับการกลับเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นจีนค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ปี 2024 ตลาดหุ้นจีนได้ปรับตัวขึ้นและสร้างผลตอบแทนได้ดี จึงทำให้ตลาดหุ้นจีนเป็นจุดหมายที่นักลงทุนให้ความสนใจอีกครั้ง โดยในปี 2024 MSCI China All Shares Index ซึ่งส่วนประกอบด้วย  หุ้นจีนที่ซื้อขายในประเทศจีน (A Share), หุ้นจีนที่ซื้อขายในตลาดฮ่องกง (H Share) และหุ้นจีนที่ซื้อขายในตลาดสหรัฐอเมริกา (ADR) สามารถสร้างผลตอบแทนได้ 4.87% ในสกุลเงิน USD และ 12.30% ในสกุลเงินไทยบาท (ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 31 พ.ค. 2024, ที่มา Bloomberg) โดยผลตอบแทนในสกุลเงินไทยบาทประกอบไปด้วย หุ้น A Share ประมาณ 5% และส่วนที่เหลือจากหุ้นที่เทรดในตลาดฮ่องกงและตลาดสหรัฐอเมริกาอีกประมาณ 9% หุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในปีนี้จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อพิจารณาในรายละเอียดแล้วกลุ่มอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูงในปีนี้มาจาก Energy, Communication Services, Utilities และ Financials

4 เหตุผลน่าสนใจ กับการลงทุนตลาดหุ้นจีน ปี 2024

            จากการปรับตัวของตลาดหุ้นจีนที่ทำให้การลงทุนกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง ยังมีอีก 4 เหตุผลที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนในปี 2024 อาจเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ได้แก่ (1) ความยืดหยุ่นและศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะเผชิญกับความท้าทายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ยังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นที่รัฐบาลจีนมีความสามารถในการนำนโยบายที่กระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจมาใช้ แม้จะอยู่ในสภาวะที่ไม่แน่นอนทั่วโลก ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ไว้ว่า GDP ของจีนจะกลับมาเติบโตที่ประมาณ 5.2% ในปี 2024 โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ ชนชั้นกลางที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วของจีนจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อรายได้เพียงพอต่อความสามารถในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ความต้องการสินค้าที่หลากหลายและบริการต่างๆ เพิ่มขึ้น ตั้งแต่สินค้าบริโภคทั่วไป ไปจนถึงสินค้าฟุ่มเฟือย บริษัทที่ตอบสนองต่อฐานผู้บริโภคที่กำลังเติบโตนี้จะได้รับประโยชน์อย่างมาก ภาคส่วนต่างๆ เช่น ค้าปลีก สุขภาพ การศึกษา และการท่องเที่ยว มีแนวโน้มการเติบโตที่สำคัญ ทำให้มีโอกาสการลงทุนที่สามารถสร้างผลกำไรได้ (2) นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและความเป็นผู้นำในตลาด เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ประเทศจีนอยู่ในแนวหน้าของหลายภาคส่วนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึง 5G, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ยานพาหนะไฟฟ้า (EVs) และพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) การลงทุนในบริษัทเหล่านี้ ทำให้นักลงทุนสามารถได้รับผลประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว กับทั้งตลาดที่กำลังเติบโตสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ (3) Valuation ของตลาดที่ไม่แพง แม้จะมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง แต่ราคาหุ้นจีนที่ซื้อขายกันอยู่ช่วงนี้ มีมูลค่าที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับหุ้นทั่วโลก ความต่างของมูลค่านี้จึงเป็นโอกาสในการซื้อหรือเข้าลงทุนสะสมสำหรับนักลงทุนระยะยาว และสุดท้าย (4) ประโยชน์จากการกระจายการลงทุน การลงทุนในตลาดหุ้นจีนให้ประโยชน์ในการกระจายการลงทุนที่สำคัญต่อนักลงทุนทั่วโลก ความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นจีนและหุ้นในตลาดที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ และยุโรป ค่อนข้างต่ำ ซึ่งหมายความว่าหุ้นจีนสามารถให้การป้องกันความเสี่ยงต่อความผันผวนในตลาดอื่นๆ การกระจายการลงทุนไปยังหุ้นจีนจึงสามารถเพิ่มผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนทั่วโลกได้

            ดังนั้น การลงทุนในตลาดหุ้นจีนในปี 2024 นำเสนอหลายโอกาสที่เกิดจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง นวัตกรรมทางเทคโนโลยี นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล และความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ตลาดหุ้นนี้ให้ประโยชน์ในการกระจายการลงทุนและมีมูลค่าที่น่าสนใจ ทำให้เป็นส่วนเสริมเชิงกลยุทธ์ในพอร์ตการลงทุนทั่วโลก เช่นเดียวกับการลงทุนใดๆ การทำวิจัยอย่างละเอียดและพิจารณาความเสี่ยงที่เป็นไปได้เป็นสิ่งสำคัญ ทำให้ตลาดหุ้นจีนในปี 2024 เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณาสำหรับนักลงทุนที่มองไปข้างหน้า โดย บลจ.ไทยพาณิชย์ มีกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Machine Learning China All Share (SCBMLCAA) เป็นกองทุนหนึ่งที่น่าสนใจ โดยกองทุนนี้จะใช้หลักการ Factor Investing และ Machine Learning สำหรับการคัดเลือกหลักทรัพย์ เพื่อให้กองทุนสามารถลงทุนตรงในหลักทรัพย์นั้น ๆ และทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงของค่าเงินไม่ว่าจะเป็นสกุล CNY, HKD และ USD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

            การลงทุนในกองทุนรวมมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยง  ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนการลงทุน ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมและหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร. 0 2777 7777

 

โดย  คุณณรงค์ศักดิ์  ปลอดมีชัย
        ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
        บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด​