บริหารพอร์ตวัยใส เริ่มออมเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี

23 เมษายน 2561

สวัสดีปีใหม่ไทยย้อนหลังคร้าบบบบบบ เดือนเมษามาเยือนก็เป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังจะเข้ากลางปีแล้ว เวลาช่างผ่านไปเร็วเหมือนเงินในกระเป๋ายิ่งนัก ผ่านมา 4 เดือนแล้วแผนการเงินของเพื่อนๆ ยัง On Plan กันอยู่หรือไม่? ถ้าคำตอบคือไม่ ลองใช้ฤกษ์ดีปีใหม่ไทยมาเริ่มต้นกันดีกว่า ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลย ก่อนอื่น มิสเตอร์กองทุน ขอเริ่มจากสมการง่ายๆ ที่อยากให้เก็บไว้ใช้กัน

สมการนี้ช่างสวยงามนัก แต่ปัญหาคลาสสิกของมนุษย์เงินเดือนโดยเฉพาะเหล่า First Jobber คือรายได้เมื่อเข้ากระเป๋าแล้วยังไม่ต้องหักเงินออม ค่าใช้จ่ายก็เรียงแถวมาดักหน้าเรียบร้อยไม่ว่าจะเป็น ค่าที่อยู่อาศัย ค่าเดินทาง ค่าอาหาร สถานการณ์เดือนชนเดือนช่างใกล้ตัวเรายิ่งนัก

ณ จุดนี้ ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ลองนั่งลิสค่าใช้จ่ายออกมาว่าแต่ละเดือนเรามีอะไรบ้าง ไม่แน่เราอาจจะเจอค่าใช้จ่ายที่สามารถเปลี่ยนมาเป็นเงินออมเพื่อการลงทุนได้

มิสเตอร์กองทุนขอยกตัวอย่าง กาแฟแมงดาวของไทยที่มีราคาแพงเป็นอันดับ 4 ของโลก* (ที่มา: www.valuepenguin.com/countries-where-buying-starbucks-most-and-least-extravagant#nogo) ค่าเครื่องดื่มส่วนใหญ่จะอยู่ที่แก้วละ 150 บาท ถ้าเราดื่มทุกวันแสดงว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะอยู่ที่เดือนละ 4,500 บาท นี่คือ 1 ใน 3 ของเงินเดือนขั้นต่ำเชียวนะ แต่ทางเราก็เข้าใจเพื่อนๆ ว่าของมันต้องกิน เราละไม่ได้ก็เปลี่ยนมาเป็นลดกันดีกว่า จากที่เราต้องดื่มพี่แมงดาวทุกวันก็เปลี่ยนเป็นวันเว้นวัน แล้วนำค่ากาแฟของวันที่ลดมาเปลี่ยนเป็นเงินออมเพื่อการลงทุนแทน เราก็จะมีเงินเก็บถึง 27,000 บาทต่อปี
เดือนละ 2,250 บาท [150 บาท x 15 วัน] หรือ ปีละ 27,000 บาท [2,250 บาท x 12 เดือน]
มูลค่าเงินก้อนนี้จะพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ดังนั้นเชื่อเถอะว่าเก็บเงินเร็วกว่าย่อมมีชัยกว่า และสำหรับเพื่อนๆ บางคนที่คิดว่า 27,000 บาท ยังเยอะอยู่ เอางี้เริ่มต้นง่ายๆ ที่ปีละ10,000 บาทก็ได้ ซึ่งจะคำนวณให้เห็นง่ายๆ ตามตัวอย่าง ดังนี้

จากตัวอย่างด้านบนอาจจะไม่เห็นภาพ ลองมาเปรียบเทียบเป็นตารางกันดู

ดูจากตัวเลขสุดท้ายแล้วจะเห็นว่าการเริ่มลงทุนช้ากว่ากัน 10 ปี ทำให้สองคนนี้เงินเก็บต่างกันถึง 1,899,450 บาท เมื่อ อายุ 60 ปี
อีกเคล็ดลับที่นำมาฝากกันคือ 3 คำง่ายๆ ABC ท่องให้ขึ้นใจแล้วเงินจะพอกพูนครับ

หากเพื่อนๆ เพิ่งเริ่มต้นออม / ลงทุน และยังไม่คล่องดีนัก ก็จะแนะนำลงทุนในหุ้นไทยก่อน เพราะหากจะกระโดดไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศเลย ก็ดูจะเสี่ยงไป เพราะจะมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ กองทุนหุ้นไทยของบลจ.ไทยพาณิชย์ที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั่วไป มีอยู่ 2 กองทุนคือ

สำหรับกองทุนที่แนะนำกันในวันนี้ มีเพียงเท่านี้ครับ อย่าลืมนำข้อคิดต่างๆ ไปเริ่มลงทุนกันนะครับ “ยิ่งออมเร็วยิ่งดี” จำให้ขึ้นใจ และหากยังไม่มั่นใจว่าข้อมูลปึ๊กแล้ว ก็ต้องศึกษาข้อมูลการลงทุนกันเยอะๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนกันที่นี่นะครับ
SCBSE, SCBDV พบกันใหม่ในบทความหน้านะคร๊าบบบบ

คำเตือน :

  • ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน