SHARE
สวัสดีครับ เพื่อนนักลงทุนทุกท่าน พบกันอีกแล้ว กับผมมิสเตอร์กองทุน เพื่อนรักนักลงทุน อย่างที่บอกในทุกๆ เดือน ความรู้เรื่องการลงทุน หาได้ไม่ยาก ที่นี่ที่เดียว มา Update กันเรื่อยๆ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคร้าบ...
วันนี้จะพาทุกท่านบินไปส่องภูมิภาคที่น่าลงทุน เป็นอันดับ 1 ตอนนี้ ไม่ไกลเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงกันนี่เอง และจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจาก “ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” มาดูกันหน่อยครับว่าเค้ามีอะไรน่าสนใจ จนทำให้พวกเราต้องรีบไปลงทุน ถ้าลองสังเกตุ สมัยนี้ไม่ว่าเราจะวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น ไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน ไหว้พระใหญ่ที่ฮ่องกง ไปทำศัลยกรรมหรือท่องเที่ยวตามรอยซีรี่ย์ที่เกาหลี หรือแวะชิมต้นตำรับชาไข่มุกที่ไต้หวัน ก็ไม่ได้ยากแล้วนะครับ บางประเทศก็ไม่ต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยาก และประเทศต่างๆ ก็เร่งพัฒนาความเป็นเอกลักษณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศของตนกันอย่างต่อเนื่อง
หากดูภาพให้กว้างขึ้นกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ที่เราเรียกกัน คาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียระหว่างปี 2017-2018 จะสูงถึง 6.4% เทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 2% นำโด่งมาโดยจีนและอินเดีย ที่การขยายตัวเกิดจากความต้องการใช้สินค้าและบริการในประเทศเป็นหลัก และตลาดหุ้นเอเชียในปัจจุบันถือว่ายังซื้อขายในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว (ระดับ PE ratio ประมาณ 13.6 เท่า เทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ที่ระดับ 17.4 เท่า) เรียกง่ายๆ ว่าหากเราลงทุนซื้อหุ้นในเอเซีย จะได้ของถูกกว่านั่นเอง อีกทั้งนักวิเคราะห์ยังคาดการณ์การขยายตัวของกำไรบริษัทที่สูงกว่าอีกด้วย โดยผลประกอบการขยายตัวในปี 2017 ประมาณ 17.8% ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 11.9% (ที่มา: Goldman Sachs: Asia Pacific Weekly Kickstat as of 26 May 2017) มองดูสภาพเศรษฐกิจน่าจะสดใสดีทีเดียว และเชื่อว่าตลาดหุ้นเอเชียจะยังให้ผลตอบแทนที่ดีในการลงทุน
จะว่ามีแต่แง่ดีอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะความเสี่ยงที่จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นเอเชียก็มีอยู่นะคร๊าบ ได้แก่ “แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)” บางท่านอาจจะงง ว่าทำไมการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ถึงมีผลต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในบ้านเรา ต้องบอกอย่างนี้ครับว่า FED เป็นเหมือนบิ๊กเบิ้ม เพราะเงินตราที่ค้าขายกันในโลกนั้น เกินกว่า 50% ซื้อขายกันเป็นสกุล USD นะสิครับ ดังนั้นการขึ้นลงของดอกเบี้ยและทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ย่อมส่งผลต่อประเทศคู่ค้าและทิศทางค่าเงินสกุลอื่นอย่างเราๆ นี่แหละครับ นักลงทุนบางท่านที่เรียนหรืออยู่ในวงการการเงินก็จะทราบว่าหากธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ย ในทางทฤษฎีจะทำให้ผลตอบแทนโดยเปรียบเทียบของประเทศนั้นดีขึ้นหากเทียบกับประเทศอื่นที่อยู่เท่าเดิม โดยธรรมชาติของเงินจะไหลเข้าประเทศที่มีผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งกรณีนี้เงินควรไหลกลับสหรัฐฯ คนที่ทิ้งเงินไว้ในเอเชียจะต้องทยอยแลกเงินเป็น USD กลับไป ความต้องการสูงก็ทำให้ค่าเงิน USD ควรแข็งค่า แต่อย่าเพิ่งสรุปครับเพราะการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ใน 2 ครั้งที่ผ่านมา ค่าเงินเอเชียกลับปรับตัวแข็งค่าแทน แถมยังคงมีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง สาเหตุก็เพราะตลาดมองว่าเอเชียยังมีความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ประเทศส่วนใหญ่เกินดุลบัญชีเดินสะพัดค่อนข้างมาก (เป๋าตุง) และต้องขอบคุณ FED ที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับนักลงทุนทั่วโลก ทำให้การขึ้นดอกเบี้ยนั้น ตลาดต่างๆ ก็ทยอยรับรู้และปรับตัว และคาดว่าพี่ใหญ่ (จีน) คงใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน เน้นรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ในช่วงการเปลี่ยนผู้นำหลายตำแหน่งในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ อีกทั้งแนวโน้มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวดีขึ้นส่งผลบวกต่อเนื่องถึงกำไรบริษัทในประเทศจีนอีกด้วย ดังนั้นความเสี่ยงข้อนี้อาจทำให้นักลงทุนกังวัลน้อยลง
แต่ที่น่ากังวลคือ หลายคนมองว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลง แถมมีหนี้ในประเทศที่สูงมาก โอกาสเกิดเศรษฐกิจฟองสบู่มีอยู่เนืองๆ (ก็เหมือนคนหารายได้ได้ลดลง และมีการก่อหนี้เยอะ หากไม่รัดเข็มขัดเกรงว่าจะไม่มีเงินมาใช้หนี้นั้นเอง) ทำให้ตลาดยังมีความกังวลได้ทุกเมื่อ หากเกิดเหตุการณ์ใดๆ มากระทบ ก็จะทำให้เศรษฐกิจและการลงทุนเกิดความผันผวนได้ แม้ว่าจีนเองก็พยายามรักษาเสถียรภาพอย่างต่อเนื่องก็ตาม
จากที่ได้กล่าวข้างต้น ถือว่า แนวโน้มการเติบโตในภูมิภาคเอเชียเราก็มีทั้งข้อดีและข้อด้อยนะครับ ดังนั้นสำหรับเพื่อนรักนักลงทุนที่สนใจลงทุนและไม่อยากต้องเสียเวลาไปพิจารณาว่าหุ้นไหนดี ประเทศไหนน่าลงทุน หรือต้องนั่งจับจังหวะตลาดที่มีความผันผวน หรือกังวลในการติดตามหุ้นขึ้นหรือลงเอง มิสเตอร์กองทุนแนะนำกองทุนที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ บริหารจัดการอยู่ มีให้เลือก 2 กองทุนที่ตรงกับ ตีมในวันนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ...วันนี้เนื้อเรื่องอาจจะดูเนื้อหาแน่นๆ ก็อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคร๊าบ และที่มิสเตอร์กองทุนย้ำกับเพื่อนรัก
นักลงทุนทุกท่านอยู่เสมอ คือ ก่อนลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อน ส่วนเดือนหน้า มิสเตอร์กองทุนจะมา Update ข้อมูลอะไรกันต่อไป อย่าลืมติดตามกันนะคร๊าบ... #SCBAMลงทุนสิจ๊ะรออะไร....รักนะจุ๊บๆ
