เป็นที่ทราบกันแน่ชัดแล้วว่าในปี 2563 นี้จะมีการยกเลิกกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) โดยจะมีกองทุนรวมเพื่อการออม Super Savings Fund หรือสั้นๆ ว่ากองทุน SSF มาแทนที่ โดยจะสามารถนำค่าซื้อหน่วยลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ตั้งแต่ปี 2563 – 2567 ซึ่งเหตุผลหลักที่เปลี่ยนเป็นกองทุน SSF เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มมีวินัยในการออมอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังที่จะให้เริ่มต้นออมระยะยาวตั้งแต่เข้าสู่วัยทำงาน และรู้จักวางแผนการเงินเพื่อนำไปสู่ความมั่นคงทางรายได้เมื่อพ้นวัยทำงาน เพราะกองทุน LTF ถูกตั้งมาเพื่อสนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้น เพื่อให้มีสภาพคล่องและสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดหุ้น กองทุน LTF จึงเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว ซึ่งนักลงทุนบางท่านไม่สามารถรับความเสี่ยงหุ้นได้ แต่สำหรับกองทุน SSF จะสามารถเสนอทางเลือกการลงทุนเพื่อการออมระยะยาวได้มากขึ้น เพราะสามารถลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ ก็ได้ พร้อมทั้งมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายกว่ากองทุน LTF
นอกจากนี้ กองทุน SSF ยังเป็นการสนับสนุนและเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ที่อาจเริ่มต้นทำงาน หรือผู้ที่มีฐานรายได้ไม่สูง ให้สามารถลงทุนเพื่อการออมระยะยาวได้มากขึ้น เพราะเงินลงทุนในกองทุน SSF สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ถึงร้อยละ 30 ของเงินได้พึงประเมินแต่ไม่เกิน 2 แสนบาท ซึ่งขยายกรอบการลดหย่อนจากกองทุน LTF เดิมที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เพียงร้อยละ 15 ของเงินได้พึงประเมินแต่ไม่เกิน 5 แสนบาท
สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long-Term Equity Fund) หรือ LTF ซึ่งจะสิ้นสุดการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีปี 2562 นั้น นักลงทุนที่ลงทุนในกองทุน LTF ไปแล้ว ยังสามารถคงหน่วยลงทุนในกองทุน LTF ได้เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้จนครบตามกำหนด และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป หากต้องการลงทุนในกองทุน LTF ต่อไป ก็ยังสามารถลงทุนได้ โดยการลงทุนจะมีลักษณะเหมือนกองทุนรวมหุ้นทั่วไป สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการแต่จะไม่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกต่อไป
ในส่วนของกองทุน SSF มีข้อกำหนดอย่างไรบ้าง เรามาดูกันครับ
ช่วงต้นปีหน้าคงได้เริ่มเห็นแต่ละบลจ.ทยอยเปิดตัวกองทุน SSF ให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน เรามาคอยติดตามกันต่อไปครับว่า กองทุน SSF จะมีความน่าสนใจและตอบโจทย์การส่งเสริมการออมได้มากน้อยเพียงใด แต่สำหรับผม การออมเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นที่จะต้องสร้างวินัยในการออมอย่างสม่ำเสมอนะครับ
โดย คุณณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด