การประชุม FOMC เมื่อวันที่ 17-18 ก.ย. ที่ผ่านมา นับเป็นวันสำคัญของตลาดทุนที่นักลงทุนทั่วโลกเฝ้าจับตามองว่า Fed จะเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกหรือไม่ เพราะจะเป็นการลดดอกเบี้ยในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งบทสรุปอย่างที่นักลงทุนได้ทราบกันแล้วคือ Fed มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายถึง 50 bps ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตอบสนองทิศทางบวกในทันที อย่างไรก็ดี มองไปข้างหน้าก็ยังมีความกังวลว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีโอกาสเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่
ในด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดูไม่น่ากังวลนัก จากตัวเลขการคาดการณ์เศรษฐกิจรายไตรมาสของ Fed (Summary of Economic Projection) เมื่อเดือน ก.ย. ที่ออกมา ไม่ได้สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจจะถดถอยในระยะอันใกล้แต่อย่างใด โดยคาดการณ์ GDP ปี 2024 ถูกปรับลดลงเพียงเล็กน้อยจาก 2.1% เป็น 2.0% และคาดการณ์ GDP สำหรับปี 2025-2026 คงไว้ที่ระดับ 2.0% เช่นเดิม ส่วนอัตราการว่างงาน เพิ่มขึ้นจาก 4.0% เป็น 4.4% ทั้งในปีนี้และปีหน้า สะท้อนตลาดแรงงานชะลอตัวแต่ไม่ได้ซบเซาจนเข้าใกล้ระดับเศรษฐกิจถดถอยในอดีต ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE) ลดลงทั้งปีนี้และปีหน้า และจะเข้าสู่เป้าหมายของ Fed ที่ 2% ในปี 2026
ในส่วนของด้านตลาดการลงทุนที่มักเป็นการมองไปข้างหน้า (Forward-Looking) ยังค่อนข้างคลุมเครือ เพราะจากสถิติในอดีตบ่งชี้ว่าหาก Fed เริ่มมีการลดดอกเบี้ยครั้งแรก ผลตอบแทนของตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้าจะแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าจะเป็นแบบชะลอตัวแต่ไม่ถดถอย (Soft Landing) ที่ Fed จะสามารถค่อยๆ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามข้อมูลเศรษฐกิจ หรือจะเป็นแบบถดถอย (Recession) ซึ่งอาจทำให้ Fed ต้องอัดยาแรงโดยการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว จากเหตุปัจจัยข้างต้น การลงทุนในช่วงวัฏจักรการลดดอกเบี้ยของ Fed หลังจากนี้จึงอาจมีความผันผวนได้จากความไม่ชัดเจนในเรื่องข้อมูลเศรษฐกิจ ทั้งด้านการเติบโต การจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งคาดเดาได้ยากและมีความไม่แน่นอนสูง
ด้วยเหตุนี้ สินทรัพย์ประเภท US Senior Loan หรือสินเชื่อไม่ด้อยสิทธิและมีหลักประกันในสหรัฐอเมริกา น่าจะช่วยตอบโจทย์การลงทุนท่ามกลางสภาวะที่ตลาดมีความไม่แน่นอนต่อทิศทางนโยบายของ Fed และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการกระจายการลงทุนจากตลาดหุ้นโลกที่โดยรวมอยู่ในระดับราคาที่สูงและตึงตัวมากขึ้น ซึ่งการลงทุนในสินทรัพย์ US Senior Loan นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ และด้วยลักษณะการจ่ายดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating rate) ที่ส่วนใหญ่มักจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยใหม่ทุกๆ 1-3 เดือน ส่งผลให้พอร์ตโฟลิโอมี Effective Duration ต่ำใกล้เคียง 0 ทำให้มีความผันผวนต่อทิศทางของดอกเบี้ยต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นกู้หรือพันธบัตรชนิดอื่นทั่วไปที่มี Duration ยาวกว่า นอกจากนี้ หากเกิดเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ ด้วยศักดิ์ของเจ้าหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ (Senior) และมีหลักประกัน (Secured) ทำให้นักลงทุนใน US Senior Loan จะได้รับการชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้รายอื่น ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา US Senior Loan จึงมีอัตราการได้รับชําระคืนเมื่อเกิดการผิดนัดชําระหนี้ (Recovery Rate) ที่สูงกว่าการลงทุนในหุ้นกู้ชนิดอื่นด้วย
นอกจากนั้น อัตราดอกเบี้ยที่จะทยอยปรับตัวลงมา ที่ช่วยเรื่องของ Sentiment การลงทุนที่นักลงทุนจะตอบรับในเชิงบวกที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยสนับสนุนในเรื่องของปัจจัยพื้นฐาน เนื่องจากดอกเบี้ยที่ลดลงจะส่งผลดีต่อมุมมองด้านเครดิตของบริษัทผู้กู้โดยรวมอีกด้วย เนื่องจากต้นทุนทางการเงินของบริษัทต่างๆโดยรวมจะต่ำลงจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงและตัวเลขอัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทโดยรวมดีขึ้น ความเสี่ยงด้านเครดิตหรือความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่ลดลงนี้เป็นผลดีสำหรับนักลงทุนในสินเชื่อ
สุดท้ายนี้ ด้วยมุมมองจากนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ชั้นนำทั่วโลกที่ส่วนใหญ่ยังคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ไม่น่ากลับไปอยู่ในระดับต่ำราว 0% ได้อย่างที่เคยเกิดขึ้นในช่วงโควิด ประกอบกับเป้าหมายการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ของ Fed จึงทำให้นักลงทุนใน US Senior Loan จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อไป เนื่องจาก Credit Spread ของ US Senior Loan อยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 500 bps ซึ่งเมื่อรวมกับ Base Rate ในปัจจุบัน นักลงทุนอาจได้รับผลตอบแทนจาก coupon สูงถึง 9% ในขณะที่เชิงมูลค่าพื้นฐาน การลงทุนใน US Senior Loan ยังถือว่าถูกเมื่อเทียบกับตัวเองและเทียบสินทรัพย์ใกล้เคียงกันอย่าง High Yield Bond โดยดูข้อมูลจาก Credit Spread ของ US Senior Loan ยังสูงกว่าค่ากลาง Credit Spread ของตัวเองย้อนหลัง 10 ปีและสูงกว่า High Yield Bond ที่มี Credit Spread ที่แคบกว่ามาก ในขณะที่ ความเสี่ยงด้านเครดิตทั้งมีความใกล้เคียงกัน (ข้อมูลจาก Invesco ณ 31 สิงหาคม 2567) อีกทั้ง อัตราการผิดนัดชำระหนี้ยังอยู่ในระดับต่ำจึงไม่ได้น่ากังวล การลงทุนในสินทรัพย์ประเภท Senior Secured Loan จึงอาจใช้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดพอร์ตลงทุน เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยสม่ำเสมอได้ ซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจในช่วงเวลานี้
--------------------------
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Senior Loan ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ SCBSNLOAN กองทุน Complex Fund ที่มีความเสี่ยงกองทุนระดับ 8+ / กองทุนมีความเสี่ยงจากการลงทุนในสินเชื่อไม่ด้อยสิทธิ (Senior Loans) นักลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลสาธารณะได้อย่างจำกัด และมีข้อมูลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือน้อยกว่าหลักทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่มีตลาดรองรับ และมีข้อมูลเปิดเผยเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ สินเชื่อไม่ด้อยสิทธิจะไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหลักทรัพย์ หรือผู้ออกตราสารโดยสถาบันชั้นนำที่เป็นอิสระ จึงทำให้นักลงทุนต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการประเมินอันดับความน่าเชื่อถือจากผู้จัดการการลงทุนเท่านั้น
กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์จำกัด โทร.02-777-7777 และผู้สนับสนุนการขายทุกราย สนใจเข้าลงทุนติดต่อที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนส่วนบุคคล ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์และผู้สนับสนุนการขายทุกราย
โดย คุณณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด