มันนี่ ดีไอวาย 4.0 by SCBAM : กองทุนธรรมาภิบาล ลงทุนหรือทำบุญ? ผลตอบแทนสู้กองทุนหุ้นทั่วไปได้หรือไม่

22 กันยายน 2560

         นี่คงเป็นคำถามของนักลงทุนหลายคนที่มีความสงสัยแต่ก็ต้องการที่จะลงทุนกับกองทุนธรรมาภิบาลที่เน้นการลงทุนในบริษัทที่มีความผิดชอบต่อสังคมว่าจะสามารถแข่งขันกับการที่ไปลงทุนกับบริษัททั่วไปได้หรือไม่ เงินที่เรานำไปลงทุนสร้างผลตอบแทนให้เราได้เต็มที่ หรือเน้นการกุศลอย่างเดียวกันแน่

         ผมก็ได้ไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ปรากฏว่ามีนักวิชาการ 3 ท่านที่มหาวิทยาลัยวอริคของประเทศอังกฤษ ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้และตีพิมพ์ไว้ใน Journal of Corporate Finance ตั้งแต่ปี 2008 ชื่อเรื่อง The Price of Ethics and Stakeholder Governance: The Performance of Socially Responsible Mutual Funds ผลสรุปปรากฏว่ากลุ่มกองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทที่เน้นธรรมาภิบาลและรับผิดชอบต่อสังคมในสหรัฐฯ อังกฤษ ยุโรป และเอเชียให้ผลตอบแทนที่แพ้กองทุนหุ้นทั่วไปของตลาดนั้นๆ ตั้งแต่ -2.2% ถึง -6.5% จะมีก็เพียงในตลาดฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และสวีเดน ที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกันกับกองทุนหุ้นทั่วไปโดยไม่แพ้ไม่ชนะ ตอนแรกเขียนมาถึงตรงนี้แทบไม่อยากจะเขียนต่อแล้ว นี่ตกลงพวกกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีธรรมาภิบาลแพ้กองทุนปกติก็ไม่ได้ต่างกับการที่เราทำบุญหรืออย่างไรกัน แต่ไหนลองมาดูตัวเลขของไทยบ้างสิ

         อันที่จริงกองทุนที่เน้นธรรมาภิบาลในบ้านเรานั้นมีมานานแล้ว เริ่มเปิดตลาดโดยกองทุนเปิดบรรษัทภิบาลหุ้นระยะยาว ของ  บลจ.ยูโอบี นั้นมีมานานกว่า 10 ปี ส่วนกองทุนเปิดบัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาล ของ บลจ.บัวหลวง ก็อยู่มากว่า 5 ปี และกองทุนเปิดทิสโก้ ESG เพื่อสังคม ก็ตั้งมาปีกว่า พอลองเจาะลึกลงไปดูผลตอบแทนของทั้งสามกองทุนก็พบว่าสามารถชนะตัวเทียบวัดหรือ benchmark ได้ดีทีเดียว โดยกองทุนเปิดบรรษัทภิบาลหุ้นระยะยาว สามารถชนะดัชนีเทียบวัดทั้ง 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี ส่วนกองทุนเปิดบัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาล ที่จัดตั้งเมื่อเมษายน 2555 ก็สามารถชนะดัชนีเทียบวัดได้ทั้ง 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี หรือแม้แต่กองทุนเปิดทิสโก้ ESG เพื่อสังคม ที่ตั้งมาเพียงแค่ปีหว่าก็สามารถชนะดัชนีตัวเทียบวัดด้วยเช่นกัน เห็นอย่างนี้แล้วค่อยสบายใจหน่อยครับ เพราะแสดงว่าบริษัทที่มุ่งเน้นบรรษัทภิบาลในประเทศไทยนั้น สามารถสร้างการเติบโตของกำไรได้ไม่แพ้บริษัททั่วไป หรืออาจจะยกประโยชน์ให้ผู้จัดการกองทุนว่าสามารถเลือกหุ้นได้เก่งก็ตาม ผลลัพธ์ก็คือนักลงทุนมิได้เสียประโยชน์จากการเลือกลงทุนในกองทุนที่เน้นธรรมาภิบาล แต่กลับได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีเทียบวัดอย่างมีนัยสำคัญ

 

         ในปีนี้ทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งประเทศไทย รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอีกหลายแห่งต่างก็ลุกขึ้นมาช่วยกันออกกองทุนที่ลงทุนในบริษัทที่เน้นธรรมาภิบาล ซึ่งผมก็เชื่อมั่นว่ากระแสดังกล่าวนอกจากจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หันมาตื่นตัวในเรื่องนี้กันมากขึ้นแล้ว รางวัลที่แถมมาก็คือนักลงทุนสถาบันจะช่วยสนับสนุนการลงทุนในบริษัทที่ตั้งใจทำดีอีกด้วย สำหรับนักลงทุนเองที่มาลงทุนในกองทุนดังกล่าวก็ยังสามารถคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนที่ไม่ด้อยไปกว่าการลงทุนหุ้นทั่วไป อย่างนี้ก็ได้ทั้งทำดีและยังได้กำไรอีกด้วยนะครับ

 

โดย คุณสมิทธ์  พนมยงค์ ​
        ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร​
        บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด