SHARE
“ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการพัฒนาวัคซีนต้าน COVID-19”
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากข่าวดีความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในขณะนี้ หลังจากที่บริษัทยา Moderna เปิดเผยผลการทดสอบวัคซีนเบื้องต้นในระยะที่ 3 พบว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อ COVID-19 ถึง 94.5% และสามารถเก็บวัคซีนไว้ในตู้เย็นได้ด้วยอุณหภูมิที่ 2-8 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 30 วัน โดยที่บริษัทยา Moderna และบริษัทPfizer/BioNTech คาดว่าจะผลิตวัคซีนรวมกันได้ประมาณ 2 พันล้านโดสในปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอสำหรับประชากรที่ต้องได้รับวัคซีนในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจำนวน 660 ล้านคน คิดเป็น 1.3 พันล้านโดส (2 โดสต่อคน)
ตัวเลข Composite Markit PMI ของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. ยังคงอยู่ในแดนขยายตัว โดยตัวเลข PMI สหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 56.3 เป็น 57.9 จุด โดยดัชนีเพิ่มขึ้นทั้งภาคการผลิตและบริการ ซึ่งดัชนี Manufacturing PMI ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ย.ที่ 56.7จุด จากเดือนก่อนหน้าที่ 56.7 จุด โดยมีการปรับเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวใน Factory Activity ส่งผลให้ผลมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นซึ่งสะท้อนการขยายตัวที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง
ดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเดือน พ.ย. ของประเทศหลักในยุโรปปรับตัวลดลง จากการที่รัฐบาลยุโรปมีการออกมาตรการ Lockdown ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงปลายเดือน ต.ค. ทำให้สภาวะเศรษฐกิจที่กลับมาแย่ลง สะท้อนจากความดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของประเทศหลักในยุโรปไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี และฝรั่งเศสปรับตัวลดลงถึง -1.8 และ -11.1 จุดลงสู่ระดับที่ 90.7 จุด และ 79.1 จุดตามลำดับ ขณะที่ปัจจุบันนี้รัฐบาลเยอรมนีกำลังพิจารณาต่ออายุมาตรการ Lockdown ออกไปจนถึงวันที่ 20 ธ.ค. 2563
ผลการประชุมของ FED สหรัฐฯ โดยรวมยังสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) สหรัฐฯ มีการหารือกันถึงแผนการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE Purchases) ที่เหมาะสมในระยะข้างหน้าทั้งอัตราการเข้าซื้อ (Pace) และองค์ประกอบ (Composition) ของสินทรัพย์ที่จะทำการเข้าซื้อ ซึ่ง FOMC กล่าวว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะอันใกล้นี้
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนพ.ย. หดตัว โดย Conference Board รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ปรับตัวจากระดับ 101.4 จุดเป็น 96.1 จุด ซึ่งแย่กว่าตลาดคาด เป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุน
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน THB เฮ็ดจ์ (SCBCEH)
“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET50 INDEX (SCBSET50)
“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารหนี้ US Short Duration High Income (SCBUSHY)
“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (SCBPIN)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ (SCBGOLD)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์ (SCBGOLDH)
“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Cap (SCBMSE)
