SHARE
“ไวรัสโคโรน่าทำให้ตลาดหุ้นจีนผันผวน”
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวน แม้ว่าการลงนามข้อตกลงการค้า Phase 1 ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นในช่วงกลางเดือนม.ค. 2563 แต่ปัจจัยที่มากดดันตลาดหุ้นคือ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ทำให้จีนประกาศปิดเมืองไปถึง 8 เมืองในมณฑลหูเป่ย์ ประกอบกับควบคุมการเดินทางยังเมืองต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงเมืองอู่ฮันที่เป็นจุดกำเนิดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในครั้งนี้ ทำให้ภาคการบริโภคและการท่องเที่ยวอาจจะได้รับผลกระทบในระยะสั้นนี้ ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เลื่อนการตัดสินใจที่จะประกาศว่า ไวรัสโคโรน่าในจีนเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพของโลก
ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงนโยบายการเงินเดิมตามคาด โดยคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1% ตลอดปี แต่ธนาคารกลางปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจขึ้นจาก 0.2% เป็น 1.1% จากปัจจัยบวกของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐระยะ 15 เดือน ประกอบกับความตึงเครียดทางการค้าที่ผ่อนคลายลง
อัตราเงินเฟ้อของไทยออกมาต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.71%YoY ซึ่งต่ำกว่าเงินเฟ้อเป้าหมาย 1-4% โดยมสาเหตุสำคัญมาจากราคาพลังงานที่ลดลง และเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวชะลอลง โดยเฉพาะภาคการส่งออกและรายได้ของครัวเรือน
ตัวเลขการส่งออกของไทยหดตัว โดยในเดือน ธ.ค. ตัวเลขออกมาปรับตัวลดลง 1.3% YoYจากตัวเลขการส่งออกสินค้าสำคัญทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัวลง 2.7% และการหดตัวของส่งออกโดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่งปัจจัยหลักที่ฉุดส่งออกในเดือนที่ผ่านมา
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ โดยจะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 3.3% ซึ่งต่ำกว่าประมาณการครั้งก่อนเมื่อเดือน ต.ค. ที่ 0.1% แต่ปรับสูงขึ้นจากปีที่แล้วอยู่ 0.4% จากความตึงเครียดทางการค้าโลกดูมีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้นประกอบปัจจัยชั่วคราวที่กดดันบางอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์และเทคโนโลยี ที่เริ่มมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตามความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในหลายๆประเทศยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติด
อังกฤษมีกำหนดแยกตัวออกจาก EU อย่างเป็นทางการ หลังจากร่างกฎหมาย Brexit ได้รับการอนุมัติจากสภาสูงอังกฤษ และได้รับการลงนามจาก Queen Elizabeth ที่สองเป็นที่เรียบร้อย โดยลำดับต่อไปจะเข้าสู่กระบวนการการอนุมัติจาก EU Parliament ในวันที่ 29 ม.ค. ส่งผลให้อังกฤษออกจาก EU ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 63 ซึ่งอังกฤษจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านและยังคงใช้กฎของ EU จนถึงสิ้นปี 2563
กลยุทธ์การลงทุน
“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลอินฟราสตรัคเจอร์ อิควิตี้ (SCBGIF)
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ไทยอิควิตี้ (SCBTEQ)
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลบอลดิจิตอล (SCBDIGI)
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นเกาหลี (SCBKEQT)
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เครดิตออพพอทูนิตี้ (SCBOPPA)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ (SCBSET)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น (SCBNK225)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลสตราทีจิก อินเวสเมนท์ (SCBGSIF)
“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ บิลเลียนแนร์ (SCBBLN)
