SCBAM Market Insight : รายงานภาวะตลาด ประจำวันที่ 24-28 ส.ค. 2563

24 สิงหาคม 2563

“FED ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป”

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ค่อนข้างผันผวน จากหลายประเทศยังคงเผชิญกับการติดเชื้อของไวรัส COVID-19 ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวค่อนข้างจำกัด ประกอบกับหลังจากการประชุมทาง FED ได้เปิดเผยรายงานการประชุมของรอบเดือน ก.ค. ชี้ว่าคณะกรรมการไม่ได้มีการหารือถึงมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม สะท้อนให้เห็นว่าความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอย่างไรก็ตามตัวเลข PMI ของประเทศส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ ยุโรป และจีนที่ยังคงอยู่ในแดนขยายตัว

ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสองหดตัว  โดยหดตัวจากไตรมาสที่แล้วถึง -10.2%YoY สู่ระดับที่ -12.2% YoY จากภาคอุปสงค์ภายในประเทศนำโดยการบริโภคภาคเอกชนหดตัวถึง -6.6%YoYและอุปสงค์ต่างประเทศหดตัวจากภาคการส่งออกสินค้าและบริการที่อยู่ที่ระดับ -15.9% และ -70.4%YoY ตามลำดับ

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. ของสหรัฐฯ ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวขึ้นเป็น -8.2% YoY จากในเดือนก่อนที่ระดับ -11.0% เดือนก่อน ซึ่งผลผลิตเพิ่มขึ้นหลักจากกลุ่มสินค้าคงทน เช่น รถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน สะท้อนว่าตัวเลขผลผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางอุปสงค์ทั้งในและนอกประเทศที่ฟื้นตัวอย่างจำกัด  

ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของญี่ปุ่นออกมาหดตัว โดยปรับลดลงจาก -2.7% เป็นที่ระดับ -27.8% QoQ, saar โดยนับเป็นการหดตัวต่อเนื่อง 3 ไตรมาส และรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 60 ปี จากผลกระทบของการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศและอุปสงค์โลกที่อ่อนแอ สะท้อนให้เห็นจากตัวเลขภาคการบริโภคเอกชนที่หดตัวถึง -28.9% และการส่งออกที่หดตัวสูงถึง -56.0%

สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กลับมารุนแรงอีกครั้ง หลังจากสหรัฐฯ และจีนมีการยกเลิกการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อติดตามผลข้อตกลงการค้า Phase 1 ซึ่งลงนามไปในเดือน ม.ค. 2020 ขณะที่ปธน. Trump ส่งสัญญาณกีดกันบริษัทจีนอื่นๆ เช่น Alibaba หลังจากที่แบนการใช้ Application ในจีน เช่น Tiktok และ Wechat ในช่วงที่ผ่านมา

บริษัทสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับ Huawei ถูกนำเข้าบัญชีดำเพิ่มเติม ในวันที่ 17 สค. ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศว่าจะออกมาตรการเข้มงวดยิ่งขึ้นกับ Huawei โดยการปิดช่องทางต่างๆเพื่อที่จะไม่ให้ Huawei เข้าถึงคอมพิวเตอร์ชิปโดยเด็ดขาดและสหรัฐฯ จะนำบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Huawei อีก 38 บริษัท ใน 21 ประเทศเข้าสู่บัญชีดำ (blacklist) ซึ่งจะทำให้จำนวนบริษัทในกลุ่ม Huawei ที่อยู่ใน blacklist เพิ่มมาเป็น 152 บริษัท

กลยุทธ์การลงทุน

“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Cap (SCBMSE)

“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นเกาหลี (SCBKEQTG)

“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารหนี้ US Short Duration High Income (SCBUHYA)

“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ เครดิต ออพพอทูนิตี้ (SCBOPP)

 “ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์(SCBSET)

“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET ENERGY SECTOR INDEX (SCBENERGY)