SCBAM Market Insight : รายงานภาวะตลาด ประจำวันที่ 9 - 13 พ.ย. 2563

9 พฤศจิกายน 2563

“ตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้นหลังความเสี่ยงด้านการเมืองในสหรัฐฯ ลดลง ภายหลังการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ”

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงด้านการเมืองในสหรัฐฯ ลดลง ภายหลังการเลือกตั้งปธน.ในวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยผลการนับคะแนนล่าสุด นาย Biden นำอยู่ที่ Electoral Votes 264 เสียง ขาดอีกเพียง 6 เสียงก็จะชนะการเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี คะแนนเสียงพรรค Democrat ไม่มากพอที่จะออกมาในรูปแบบ Democrat Sweep ตามที่ตลาดคาดการณ์ได้ ทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในอนาคต อาจออกมาน้อยกว่าคาด และอาจเกิดความล่าช้าในการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ละครั้ง นอกจากนี้จำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรปสูงกว่าในรอบแรกและแตะระดับสูงสุดในปัจจุบัน ส่งผลให้รัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดของมาตราการ Lockdown และอาจกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะนี้

ดัชนี Composite PMI อย่างเป็นทางการเดือน ต.ค. สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในสหรัฐฯ และยุโรป หลังสถานการณ์ COVID-19 รุนแรงขึ้นและกดดันภาคบริการ นำโดย ดัชนีสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง -0.6 จุดเป็น 56.9 จุด ตามภาคบริการที่ปรับตัวลดลง -1.2 จุด เป็น 56.6 จุด และดัชนียูโรโซน ปรับลดลง -0.4 จุด เป็น 50.0 จุด โดยภาคบริการปรับตัวลดลง -1.1 จุด เป็น 46.9 จุด ขณะที่ดัชนีประเทศแถบเอเชียยังฟื้นตัวขึ้นต่อ อาทิ ดัชนีจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.2 จุด เป็น 55.7 จุด  และดัชนีญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.4 จุด เป็น 48.0 จุด จากดัชนีทั้งภาคการผลิตและการบริการของทั้ง 2 ประเทศปรับตัวดีขึ้น

Fed คงนโยบายการเงินตามคาด โดยมีคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0-0.25% และระบุว่าจะคงอยู่ที่ระดับดังกล่าวจนกว่าตลาดแรงงานจะอยู่ในระดับที่คณะกรรมการประเมินว่าเป็นระดับการจ้างงานเต็มอัตรา (Full Employment) และเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 2% และเกินระดับดังกล่าวพอสมควร (Exceed moderately) เป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งแนวโน้มของดอกเบี้ยหรือ Dot Plot ล่าสุด ชี้ว่า Fed จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับดังกล่าวไปจนถึงปี 2023 เป็นอย่างน้อย

BoE มีมติคงดอกเบี้ยที่ 0.1% ตามคาด แต่เพิ่มวงเงิน QE มากกว่าคาดที่ 1.5 แสนล้านปอนด์ และปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปีนี้และปีหน้าลง โดย BoE มองภาพรวมเศรษฐกิจแย่ลงเมื่อเทียบการประชุมครั้งก่อน หลังจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 เร่งตัวขึ้นสูง อย่างรวดเร็ว และนำไปสู่การบังคับใช้มาตรการ Lockdown อีกครั้ง โดย BoE ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2020F ลงเป็น -11.0% จากเดิมที่คาด -9.5% ในเดือน ส.ค. และคาด GDP จะพลิกกลับมาขยายตัวที่ 7.25% ในปี 2021F ลดลงจากเดิมที่คาดจะขยายตัว 9.0%

กลยุทธ์การลงทุน

“ทยอยซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ (SCBSET)

“ทยอยซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์ (SCBGOLDH)

“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารหนี้ US Short Duration High Income (SCBUSHYA)

“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ เครดิต ออพพอทูนิตี้ (SCBOPPA)

“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นจีนเอแชร์ (SCBCHA)

“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นเกาหลี (SCBKEQTG)

“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นอินเดีย (SCBINDIA)

“ขาย”กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ออยล์ (SCBOIL)