Investment Compass สิงหาคม 2568: From Rally to Pullback

18 สิงหาคม 2568

         From Rally to Pullback โมเมนตัมของตลาดหุ้นโลกน่าจะเริ่มชะลอลง หลังจากขึ้นมาต่อเนื่องในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา บนความคาดหวังต่อผลลัพธ์ของการเจรจาการค้า ประกอบกับ ปัจจัยเชิงฤดูกาล (Seasonality) ที่บ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มักให้ผลตอบแทนเป็นลบในเดือน ก.ย. ทำให้เราประเมินทิศทางของตลาดหุ้นโลก พักตัวถึงแกว่งตัวออกข้างในเดือนนี้ และอาจปรับฐานในเดือนหน้าตามสถิติเชิงฤดูกาล จับตาเหตุการณ์สำคัญคือ การประชุม Fed ที่ Jackson Hole ระหว่างวันที่ 21-23 ส.ค.นี้

         2Q25 Earnings Review ฤดูกาลรายงานผลประกอบการ 2Q25 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ (รายงานแล้วประมาณ 86% ของจำนวนบริษัทในดัชนี S&P 500) โดยรวม ทั้งรายได้และกำไร ดีกว่าคาดการณ์ของ Bloomberg Consensus โดยหลักมาจากกลุ่ม Consumer Discretionary, Communication, Financials ส่วน Highlight คือ งบกลุ่ม Big Tech โดยภาพรวม ยังทำได้ดีกว่าคาด สะท้อนการเติบโตของความต้องการ AI

         Anti-Involution แนวทางนโยบาย Anti-Involution ของจีน มุ่งเน้นไปที่การลดกำลังการผลิตส่วนเกิน เพื่อบรรเทาปัญหาสงครามราคาในอุตสาหกรรม EV เป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาหุ้นกลุ่ม EV ในระยะนี้ หลังจากปรับตัวลงมาต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามประสิทธิของการดำเนินนโยบายในการควบคุมการแข่งขันของภาคเอกชน

Strategy & Investment Theme

  • Resilience เน้นกองทุนที่มีความทนทานต่อความผันผวน เช่น กองทุนหุ้นโลก Low Volatility เพื่อเตรียมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า
  • Rising Asia (1) ญี่ปุ่น มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่องดีลการค้ากับสหรัฐฯ, หาก USD กลับมาแข็งค่า คาดว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดหุ้นหลายแห่งในเอเชีย (2) จีน มีความคาดหวังต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ล่าสุด เลื่อนการขึ้นภาษีตอบโต้รุนแรงออกไปอีก 90 วันถึงวันที่ 10 พ.ย., Valuation เชิง P/E เทียบกับตลาดหุ้นอื่นใน EM Asia ถือว่า อยู่ในระดับที่ไม่แพง
  • US Tech ยังคงเป็นหุ้นกลุ่มหลักในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีการเติบโตของผลประกอบการค่อนข้างแข็งแกร่ง

Asset Allocation & Model Port

  • เดือนนี้ เราปรับเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้น DM ขึ้นเล็กน้อย โดยเน้นการเลือกเฟ้นกองทุน (Selection) ที่คาดว่า จะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าภาวะตลาดโดยรวมหากเกิดความผันผวนสูงขึ้น เช่น กองทุน Low Volatility (SCBLEQA), หุ้นญี่ปุ่น (SCBNK225) และหุ้นเทคโนโลยี (SCBNDQ(A))
  • เพิ่มน้ำหนักกองทุนทองคำ (SCBGOLDH) เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ต หากความผันผวนของตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ปรับเพิ่มขึ้น

         ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และขอรับหนังสือชี้ชวน ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร. 02-777-7777  www.scbam.com