การลงทุนนั้นเป็นดั่งเส้นทางสู่ความมั่งคั่ง การเริ่มต้นดี ตั้งต้นเร็ว และเป็นตามแผนย่อมช่วยให้ถึงเส้นชัยได้ตามที่ตั้งใจไว้เสมอ แต่เรื่องจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป การลงทุนไม่ได้หมายความว่าจะได้กำไรตลอด มันอาจจะเสียหายขาดทุนก็ได้ วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้เราลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไปสู่เส้นทางความมั่งคั่งในอีกวิธีหนึ่ง คือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (Dollar Cost Average หรือ DCA) นั่นเอง
หลักการของ Dollar Cost Average เป็นลักษณะการลงทุนแบบถ่วงน้ำหนัก โดยการปรับต้นทุนให้ต่ำลงในช่วงเวลาที่มีความผันผวน ด้วยวิธีการลงทุนจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละเดือนหรือในความถี่ตามระยะเวลาที่กำหนด และเมื่อลงทุนแบบ DCA แล้ว จะได้รับหลักทรัพย์จำนวนมากน้อยแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงเวลาที่ได้ลงทุนด้วยเงินจำนวนเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ได้ราคาต้นทุนแบบถัวเฉลี่ย จึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้กำไรสูงสุด แต่ก็ไม่มีทางขาดทุนแบบกู่ไม่กลับ ที่สำคัญยังช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนอย่างหลักทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญและกองทุนรวมหุ้นได้เป็นอย่างดี ดังนั้น DCA จึงเป็นอีกวิธีการซื้อหุ้นหรือหน่วยลงทุนที่ได้ผลดีมากอีกวิธีหนึ่ง เพราะเป็นลักษณะของการผสมผสานของการออม การลงทุน และการสร้าง Passive Income ผ่านระยะเวลาที่ยาวนานพอที่เราจะลดความเสี่ยงของการลงทุนได้
ปัจจุบันวิธีการลงทุนแบบ DCA ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะเป็นวิธีการลงทุนที่สะดวก ซึ่งก่อนเริ่มลงทุน เราควรทำความเข้าใจลักษณะการลงทุนแบบ DCA ให้ดีและสำรวจตัวเองดูว่า เราเหมาะกับการลงทุนด้วยวิธีนี้หรือไม่ โดยมีข้อควรรู้สำหรับมือใหม่ที่จะวางแผนการลงทุนแบบ DCA ง่าย ๆ คือ ต้องแน่ใจว่าเราสามารถลงทุนได้ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ต้องกำหนดระยะเวลาการลงทุนที่แน่นอน ต้องกำหนดจำนวนเงินลงทุนเท่า ๆ กันทุกงวด ต้องมีใจเข้มแข็ง ไม่หวั่นแม้สภาวะตลาดผันผวน และต้องลงทุนระยะยาว เพื่อรักษาถัวเฉลี่ยต้นทุนและลดความเสี่ยง
ผมขอยกตัวอย่างขั้นตอนการลงทุนแบบ DCA ในกองทุนลดหย่อนภาษี เพื่อให้เห็นภาพชัด ๆ ดังนี้
การลงทุนแบบ DCA นอกจากไม่จำเป็นว่าจะต้องลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่แล้ว ยังช่วยเฉลี่ยต้นทุน และลดความเสี่ยงจากการเข้าลงทุนผิดจังหวะในช่วงที่ตลาดการลงทุนผันผวน ทั้งยังเป็นตัวช่วยให้เราออมอย่างมีวินัยและสม่ำเสมอซึ่งอาจส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนที่พอใจได้ในอนาคต โดยการลงทุนในรูปแบบนี้เหมาะกับผู้เริ่มลงทุนที่ยังมีทุนไม่มากนัก ต้องการทยอยลงทุนและต้องการผลตอบแทนมากกว่าการฝากออมทรัพย์ ผู้ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัวเนื่องจากไม่เวลาติดตามข่าวสารมากนัก รวมถึงมนุษย์เงินเดือน โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุน SSF-RMF เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีโดยไม่ต้องควักเงินก้อนลดหย่อนภาษีช่วงปลายปี
อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกประเภทนั้นมีความเสี่ยงเสมอ ยิ่งเสี่ยงมากยิ่งได้ผลตอบแทนมากอย่างที่เรามักได้ยินคำว่า “High Risk High Return” แต่ความเป็นจริงนั้นในบางครั้งการลงทุนก็อาจเจอ "High Risk No Return" ได้เช่นกันหรืออาจจะขาดทุนด้วยซ้ำ แต่อย่าได้กังวลใจตราบใดที่เหรียญยังสองด้านการลงทุนก็เช่นกัน ซึ่งนอกจากการลงทุนแบบ DCA ที่จะช่วยกระจายการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยแล้ว การศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน และการลงทุนตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้แต่ละบุคคลก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงด้วย
อย่ากลัวที่จะลงทุน เพราะการไม่ลงทุนนับว่าเป็นความเสี่ยงกว่าแน่นอนครับ
โดย คุณอาชวิณ อัศวโภคิน
Chief Marketing Officer สายการตลาดและช่องทางการขาย
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด