SHARE
“Huawei ถูกขึ้นบัญชีดำ”
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จากความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยังคงมีความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งผลจากที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นนโยบายภาษีนำเข้าบนสินค้าจีน รวมถึงในอาทิตย์ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐมีการเพิ่มชื่อ Huawei และบริษัทลูกอีกกว่า 68 แห่ง เข้าไปอยู่ในบัญชีดำการซื้อขายซึ่งบัญชีรายชื่อนี้เป็นการบอกว่าบริษัทดังกล่าวจะไม่สามารถซื้อชิ้นส่วนหรือสินค้าจากสหรัฐฯ ได้ รวมถึง Google ยังถูกบังคับให้ยุติการทำธุรกิจกับบริษัท Huawei
ดัชนี PMI ภาคการผลิตในประเทศส่วนใหญ่หดตัวลดลง โดยเฉพาะสหรัฐฯ จากความตึงเครียดทางการค้าที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ปรับลดถึง 2.0 จุดอยู่ที่ 50.6 ซึ่งตำสุดในรอบ 9 ปีส่วนตัวเลขของยูโรโซนและญี่ปุ่นออกมาต่ำกว่าคาดและน้อยกว่า 50 จุด
ตัวเลขเศรษฐกิจไทย (GDP) ขยายตัวต่ำกว่าคาด ตัวเลข GDP ชะลอตัวลงเป็น 2.8%YoY จาก 3.6%YoY ในไตรมาสก่อน เนื่องจากตัวเลขการส่งออกสินค้าและบริการที่หดตัวมากกว่าอุปสงค์ในประเทศที่ขยายตัวดีขึ้น นำโดยภาคการบริโภคเอกชน
Fed Minutes ยังคงอัตราดอกเบี้นนโยบายไว้ที่เดิม ซึ่งคณะกรรมการส่วนใหญ่มองว่าเงินเฟ้อที่อ่อนแอที่ผ่านมาเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น เช่น ผลจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้า
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากอุปทานน้ำมันดิบโลกที่ตึงตัวมากขึ้นแม้ว่าปัจจัยบวกจากอุปทานน้ำมันตึงตัวจากประเด็นความตึงเครียดในตะวันออกกลางและผู้ผลิตน้ำมันส่วนใหญ่ใน OPEC มีแนวโน้มที่จะยืดอายุข้อตกลงลดปริมาณการผลิตออกไป อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานของรัฐเซียส่งสัญญาณไม่สนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว ประกอบกับอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มลดลงจากความกังวลสงครามการค้าซึ่งเป็นปัจจัยลบที่กดดันราคาน้ำมัน
จับตาการเลือกตั้งสภายุโรปในวันที่ 23-26 พ.ค.นี้ และการเจรจาเรื่อง Brexit จากสมาชิกพรรค Conservative เสนอให้ Theresa May ยกเลิกแผนที่จะนำข้อตกลง Brexit เข้าไปโหวตในสภาเป็นรอบที่ 4 ในสัปดาห์แรกของมิ.ย. เป็นแรงกดดันให้ Theresa May ประกาศลาออกจากตำแหน่ง
กลยุทธ์การลงทุน :
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (SCBS&P500)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นเกาหลี (SCBKEQTG)
