SCBAM Market Insight : Report on Jan 25-29, 2021

25 January 2021

“ตัวเลข GDP ของจีนในไตรมาส 4 ขยายตัวดีขึ้น”

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากความคืบหน้าเรื่องวัคซีน โดยขณะนี้วัคซีนของบริษัท Astrazeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Moderna ได้รับอนุมัติให้ใช้วัคซีนต้านไวรัส COVID-19 สำหรับการรักษากรณีฉุกเฉินได้และเริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสในหลายประเทศ อย่างเช่นสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้วราว 13 ล้านโดส อีกทั้งล่าสุดนาง Jenet Yellen รมว.คลังสหรัฐฯ แถลงต่อคณะกรรมการด้านการเงินของวุฒิสภา ในการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่นาย Biden เสนอไว้คิดเป็นวงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.9% ของ GDP) และเรียกร้องให้การอนุมัติในสภาเป็นไปโดยเร็ว เพราะสถาณการณ์ระบาดของไวรัส COVID-19 ยังคงยืดเยื้อ

ตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค. สหรัฐฯ หดตัวลง โดยตัวเลขดังกล่าวหดตัวอยู่ที่ระดับ -0.7% MoM ซึ่งนับเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่เดือนก่อนหน้าหดตัวอยู่ที่ระดับ -1.4%MoM เป็นผลมาจากยอดขายสินค้าหมวดหลักลดลง ไม่ว่าจะเป็นหมวดอิเล็กทรอนิกส์ และร้านอาหาร ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการแพร่ระบาด COVID-19 ในสหรัฐฯ ที่ยังคงมีผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับสูง

ตัวเลข GDP ในไตรมาส 4 ของจีนขยายตัวดีขึ้น โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจเร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 6.5% YoY จากไตรมาสก่อนที่ระดับ 4.9%YoY สะท้อนเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวได้ดีจากการที่รัฐบาลจีนสามารถควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภายในประเทศ ประกอบการฟื้นตัวของภาคการผลิตและส่งออกเป็นสำคัญ

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) คงนโยบายการเงินเดิมตามคาด โดยผลการประชุมในวันที่ 20-21 ม.ค. ที่ผ่านมา ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติให้คงนโยบายการเงินเดิมทั้งเป้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งอยู่ที่ระดับ -0.1% และ 0% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังคงเป้าหมายการเข้าซื้อสินทรัพย์ต่างๆ โดยวงเงินในการเข้าซื้อ ETFs และ REITs ต่อปีที่อยู่ที่ 12 ล้านล้านเยนและ 1.80 แสนล้านเยน

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงนโยบายการเงินเดิมตามที่ตลาดคาด โดยยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่างๆ อยู่ในระดับต่ำ ไม่ว่าจะเป็น Deposit Facility Rate ที่ะดับ -0.50%, Main Refinancing Rate ที่ระดับ 0.0% และ Marginal Lending Rate ที่ระดับ 0.25% อีกทั้ง ECB ยังคงการเข้าซื้อสินทรัพย์ผ่านมาตรการ QE พิเศษ ภายใต้วงเงิน 1.85 ล้านล้านยูโร ซึ่งจะเข้าซื้อสินทรัพย์ผ่านมาตรการดังกล่าวไปจนถึงเดือน มี.ค. 2022 เป็นอย่างน้อย

 

กลยุทธ์การลงทุน

“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม (SCBFIN)

“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล สตราทีจิก อินเวสเมนท์ (SCBGSIF)

“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ (SCBSET)

“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นธรรมาภิบาลไทย (SCBTHAICG)

“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ธนอนันต์ (SCBDA)