“จับตาการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน”
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชีย นำโดยตลาดหุ้นจีน จากที่ปธน. Donald Trump ประกาศขึ้นนโยบายภาษีการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนซึ่งปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ จาก 10% เป็น 25% ในวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา
รัฐบาลจีนเริ่มเตรียมการตอบโต้สหรัฐฯ โดยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ในวันที่ 1 มิ.ย. รัฐบาลจีนเตรียมแผนปรับภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ กว่า 5,000 รายการเป็นมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะปรับขึ้นภาษีที่อัตรา 5-25% ซึ่งการตอบโต้ของจีนในครั้งนี้อาจส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น
สหรัฐฯ มีแนวโน้มจะเลื่อนการขึ้นภาษีรถยนต์ คาดว่าการประชุมในวันที่ 18 พ.ค. ปธน. Donald Trump จะมีการเลื่อนกำหนดเส้นตายการปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์สหรัฐฯ จาก 2.5% เป็น 25% ต่อประเทศคู่ค้าออกไปอย่างน้อย 180 วัน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้นต่อภาคการส่งออกของยุโรปและญี่ปุ่น
จับตาการเจรจา Brexit และการเลือกตั้งสภายุโรปในวันที่ 23-26 พ.ค.นี้ โดยในช่วงต้นเดือนที่ผ่านการเจรจาระหว่างพรรค Conservative นำโดยนายกฯ Theresa May และพรรคฝ่ายค้าน Labor ในเรื่อง Brexit ยังคงไม่มีข้อสรุปใดๆ อย่างไรก็ตามรัฐบาลอังกฤษได้แถลงการณ์ว่าอาจมีการแก้ไขข้อตกลง Brexit กับ EU อีกครั้ง เนื่องจากทีมเจรจาจาก EU อาจเปลี่ยนแปลงได้ หากพรรค Conservative และ Labor ได้ข้อสรุปเรื่องข้อตกลง Brexit จะทำให้อังกฤษมีจุดยืนประเด็นที่แน่นอนในการพูดคุยกับ EU
ราคาน้ำมันดิบค่อนข้างทรงตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตามมีปัจจัยที่ช่วยพยุงราคาน้ำมันคืออุปทานน้ำมันดิบโลกตึงตัวมากขึ้น จากความตึงเครียดเรื่องมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีต่ออิหร่าน รวมไปถึงปัญหาภายในประเทศเวเนซุเอลา และเหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบีย
กลยุทธ์การลงทุน :
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน THB เฮ็ดจ์ (SCBCEH)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (SCBS&P500)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นเกาหลี (SCBKEQTG)