SCBAM Market Insight : Report on Aug 19-23, 2019 (Update)

19 August 2019

ตลาดกังวลส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีและ 2 ปีติดลบ

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ยังคงปรับตัวลดลง แม้ว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนมีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น จากในสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ออกมาประกาศชะลอการปรับขึ้นภาษีเพิ่มเติมที่ 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนบางรายการนับเป็นมูลค่าราว 1.6 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิมในวันที่ 1 ก.ย. เป็นวันที่ 15 ธ.ค. 2562 ซึ่งโดยส่วนใหญ่สินค้าเหล่านั้นเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น  โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ เครื่องเล่นเกมส์ และของเล่น

อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสะท้อนให้เห็นความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น จากส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีและ 2 ปี กลับมาติดลบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมาที่ระดับประมาณ 1.5%

ตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าคาด จากตัวเลข GDP ของเยอรมันในไตรมาส 2 ปรับตัวลดลง 0.1%QoQ และถ้าเทียบกับ GDP ในช่วงปีก่อนหน้าชะลอตัวเป็น 0.4%YoY ซึ่งต่ำสุดในรอบ 6 ปี และตัวเลขเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลงจากภาคการผลิต และการบริโภค สะท้อนให้เห็นจากตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลง จากเดิมที่ 6.3% YoY ในเดือนมิ.ย. เป็น 4.8%YoY และยอดค้าปลีกชะลอตัวลดลงจากเดิมถึง 2.4% มาอยู่ระดับที่ 7.6%YoY ตามลำดับ ซึ่งการชะลอตัวเป็นผลสืบเนื่องมาจากรัฐบาลถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มที่จะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น

ความเสี่ยงที่อังกฤษจะออกจาก EU แบบไร้ข้อตกลงในวันที่ 31 ต.ค. มีมากขึ้น ในอาทิตย์ที่ผ่านมา National Security Advisor ของ Trump ได้พบกับนายกฯ Boris Johnson ของอังกฤษ เพื่อเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอังกฤษและสหรัฐ โดยสหรัฐฯ ประกาศหนุนเศรษฐกิจของอังกฤษไม่ว่าผลของข้อตกลง Brexit จะเป็นอย่างไรก็ตาม จากกรณีดังกล่าวอาจกระทบต่อการตัดสินใจของนายกฯอังกฤษ Boris Johnson ว่าจะออกจาก EU แบบไร้ข้อตกลงและเผชิญกับความเสี่ยงจากการเมืองสหรัฐฯ หรือจะกลับมาใช้ข้อตกลง Brexit ที่อดีตนายกฯ Theresa May ได้ทำไว้ก่อนหน้านี้

ธนาคารกลางกลางยุโรป (ECB) มีท่าทีผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น โดย ECB มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง และเริ่มมีการเตรียมประกาศใช้มาตรการ QE เพิ่มเติม ประกอบกับออกมาตรการเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจจากการปล่อยกู้ผ่านโครงการ TLTROIII เช่นเดียวกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่มีแนวโน้มจะปรับผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมเร็วขึ้นหากเศรษฐกิจชะลอตัว

ตลาดหุ้นปรับตัวสะท้อนข่าวร้ายพอสมควร จากที่ตลาดหุ้นหลายประเทศในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมามาก เช่น ตลาดหุ้น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และอินเดีย ทำให้ตลาดเหล่านี้มีโอกาสที่จะกลับมาปรับตัวขึ้นจากเดิม เนื่องจากประเทศดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จำกัดสำหรับความตึงเครียดสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

EIA ปรับประมาณการการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าการผลิตน้ำมันดิบในรอบนี้จะมาจาก DUCs ที่มีอยู่กว่า 4,000 หลุม คิดเป็นปริมาณการผลิต 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และข้อจำกัดด้านท่อขนส่งน้ำมันในแหล่ง Permian เริ่มทยอยสร้างแล้วเสร็จตามแผน

กลยุทธ์การลงทุน :

“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล บอนด์ (SCBGLOB)

“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ อิควิตี้ (SCBGIF)

“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ (SCBEMBOND)

“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (SCBS&P500)

“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรปสมอลแคป (SCBEUSM)