“Brexit ถูกเลื่อนเส้นตายนานกว่าคาด”
แนวโน้มการเกิด Yield Curve Inversion ลดลง จากสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลดลงจากเดิม จากที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นมาที่ระดับประมาณ 2.5%
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงเป็น 3.3 %YoY จากเศรษฐกิจยุโรปที่ชะลอตัวลงมากกว่าคาด นอกจากนั้นยังปรับลดประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอินเดียลงเช่นกัน ขณะที่ประมาณการเศรษฐกิจจีนถูกปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ตามการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED และ ECB ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่เริ่มฟื้นตัวจากแรงกระตุ้นของนโยบายภาครัฐยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) อาจสั่งขึ้นภาษีศุลกากรยุโรป เพื่อตอบโต้ที่ EU ให้เงินอุดหนุนการผลิตเครื่องบินแก่ Airbus อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งสร้างความเสียหายแก่สหรัฐฯ กว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะมีข้อสรุปในวันที่ 4 มิ.ย.
วันที่ 10 เม.ษ.ที่ผ่านมา EU มีมติเลื่อนเส้นตาย Brexit ออกไปเป็นวันที่ 31 ต.ค. ส่งผลให้ความเสี่ยงการเกิด Crash Brexit ลดลง ขัดกับความประสงค์ของนาง Theresa May (นายกรัฐมนตรีอังกฤษ) ที่เสนอให้ยืดเส้นตายออกไปถึงวันที่ 30 มิ.ย.เท่านั้น ส่งผลให้อังกฤษต้องเข้าร่วมการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปในวันที่ 23-26 พ.ค. อย่างไรก็ตามหากสภาอังกฤษสามารถเห็นชอบข้อตกลง Brexit ร่วมกันได้ก่อนการเลือกตั้งจะทำให้อังกฤษสามารถใช้มาตรา 50 เพื่อออกจาก EU ได้ก่อนกำหนด
กลยุทธ์การลงทุน : กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET ENERGY SECTOR INDEX (SCBENERGY)
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรปสมอลแคป (SCBEUSM)
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน THB เฮ็ดจ์ (SCBCEH)
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์ (SCBGOLDH)