“สหรัฐฯ ขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน”
ตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ปรับลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชีย นำโดยตลาดหุ้นจีนที่ปรับลงต่อเนื่อง จากความกังวลต่อนโยบายภาษีการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ สหรัฐฯ จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ จาก 10% เป็น 25% มีผลนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. ซึ่งจีนอาจมีการตอบโต้สหรัฐฯ ส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งนี้จับตาวันที่ 18 พ.ค. เป็นกำหนดเส้นตายการปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์สหรัฐฯ ที่มีต่อประเทศคู่ค้า
ตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่ผ่านมายังส่งสัญญาณชะลอตัว ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ขณะที่ตัวเลขส่งออกของจีนเดือนเม.ย. กลับมาหดตัว -2.6% YoY จากที่ขยายตัวรุนแรง 13.8% YoY ในเดือนก่อน มียอดส่งออกปรับตัวมากโดยเฉพาะสหรัฐฯ ลดลง 13.1% YoY
สถานการณ์อิหร่านมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น หลังจากสหรัฐฯ เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยห้ามประเทศอื่น ๆ ทำการด้วย ส่งผลกระทบต่อธุรกิจระหว่างยุโรปและอิหร่าน จนทำให้อิหร่านต้องออกมากดดันยุโรปเรื่องการกลับมาพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์หากยุโรปปฏิเสธที่จะทำการค้ากับอิหร่าน
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศขณะที่อุปสงค์ภาคต่างประเทศมีความเสี่ยงสูง บวกกับการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้จากการส่งออกและการลงทุน ส่งผลให้กนง. ตัดสินใจไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน :
“เปลี่ยนน้ำหนักการลงทุน” จากกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ (SCBSET) เป็น กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET50 INDEX (SCBSET50)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (SCBS&P500)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นเกาหลี (SCBKEQTG)