SCBAM Market Insight : Report on Sep 2-6, 2019 (Update)

2 September 2019

ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนลดลง

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นมีความผันผวน จากความกังวลเรื่องความเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากในวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. รัฐบาลจีนประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเพิ่มเติมอีก 5-10% กับสินค้าสหรัฐฯ กว่า 5,000 รายการซึ่งมีมูลค่าประมาณ 75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการปรับขึ้นจะแบ่งเป็น 2 รอบ คือ รอบแรกวันที่ 1 ก.ย. และ รอบสองในวันที่ 15 ธ.ค. หลังจากวันนั้นปธน.ทรัมป์ ออกมาประกาศตอบโต้จีนว่าจะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเป็น 30% สำหรับสินค้าจีนกลุ่ม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากที่ถูกปรับขึ้นภาษีไปแล้วจากเดิม 25% โดยให้มีผลในวันที่ 1 ต.ค. และปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดิม 10% เป็น 15% ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ก.ย. อย่างไรก็ตามตลาดคลายความกังวลหลังจากจีนมีท่าทีอ่อนลง จากการประกาศว่าจะไม่ตอบโต้สหรัฐฯ ในครั้งนี้และจะหาทางออกจากการเจรจาร่วมกัน

ผลการประชุม Jackson Hole Symposium ออกมาตามคาด นาย Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังคงย้ำเช่นเดิมว่า FED พร้อมที่จะดำเนินนโยบายการเงินอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจและยังไม่ได้ส่งสัญญาณที่จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวได้ดี สะท้อนจากอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำและภาคการบริโภคของเอกชนยังคงแข็งแกร่ง

ตัวเลขเศรษฐกิจเยอรมันยังคงติดลบ สะท้อนเศรษฐกิจมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Technical Recession) จากตัวเลข GDP ในไตรมาส 2 ออกมาติดลบ โดยหดตัว 0.1%QoQ ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจสถาบัน IFO ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 เดือนโดยลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปีที่ระดับ 94.3 จุด ผลจากความเสี่ยงทางการค้าที่มีเพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนของ Brexit

ความเสี่ยง No-deal Brexit เพิ่มขึ้น หลังนายกฯ Boris Johnson เห็นชอบให้สภาหยุดทำการเพิ่มเติมเป็นระยะเวลาราว 1 เดือน ทำให้สภาเหลือเวลาเพียง 2 สัปดาห์ในการออกกฎหมายเพื่อยับยั้งการเกิด No-deal Brexit ก่อนที่จะถึงกำหนดที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU อย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ต.ค. อย่างไรก็ตามหากสภาลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล พรรค Labor จะได้โอกาสจัดตั้งรัฐบาลใหม่ชั่วคราว เพื่อขอยืดเส้นตายในการเจรา Brexit กับ EU และจัดทำประชามติ Brexit ใหม่ เพื่อถามความเห็นของประชาชนอีกครั้ง

ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงมีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายเพิ่มเติม โดยเฉพาะธนาคารกลางยุโรป ECB ที่ยมีโอกาสที่จะลดอัตราดอกเบี้ยโยบายลงในการประชุม ECB ครั้งหน้าในวันที่ 12 ก.ย. ประกอบกับยังมีประกาศใช้มาตรการ QE เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจ

จับตาสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน ในวันที่ 1 ก.ย. คิดเป็นมูลค่าราว 1.4 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของก้อน 3 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่อัตรา 15% โดยสินค้าที่สำคัญได้แก่ สินค้าเกษตร ของสะสมโบราณ เสื้อผ้าและรองเท้า

จับตาตัวเลข Manufacturing PMI เดือน ส.ค. ของจีน ในวันที่ 31 ส.ค. คาดว่าจะลดลงเล็กน้อย จาก 49.7 จุด เป็น 49.6 จุด โดยตัวเลขจัดทำโดยทางการของจีน National Bureau of Statistics

กลยุทธ์การลงทุน :

“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์ (SCBGOLDH)

“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ อิควิตี้ (SCBGIF)

“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ บิลเลียนแนร์ (SCBBLN)

“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น (SCBNK225)

“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ พลัส (SCBFP)