SHARE
ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ย
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ยังคงปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่นาย Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้นที่จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะข้างหน้ายังคงมีแนวโน้มชะลอตัว นอกจากนี้ธนาคารกลางทั่วโลกทั้งธนาคารกลางยุโรป อินเดีย และเกาหลีใต้ยังมีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้นซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าแทรกแซงเหตุจากแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินบาท ธปท. ปรับเกณฑ์มาตรการควบคุมการเก็งกำไรค่าเงินบาทให้เข้มงวดขึ้นโดย 1) ปรับเกณฑ์ยอดคงค้าง ณ สิ้นวันของบัญชีเงินบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (NRBA) ลดลงเป็น 200 ล้านบาทต่อรายจากเดิมกำหนดไว้ที่ 300 ล้านบาท และ 2) เข้มงวดสำหรับการรายงานถึงระดับชื่อผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงของการถือครองตราสารหนี้ที่ออกในประเทศไทยของนักลงทุนต่างชาติ โดยทั้งสองข้อข้างต้นนี้จะเริ่มมีผลบังคับในช่วงเดือนก.ค.นี้
สถาบันจัดอันดับเครดิต Fitch ปรับเพิ่มแนวโน้ม (outlook) ของไทยจาก Stable เป็น Positive จากการประเมินของ Fitch ว่าความสามารถในการรองรับภาระเงินต่างประเทศยังคงแข็งแกร่งและการบริหารการจัดการยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีจึงมีการปรับเพิ่มแนวโน้มของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) ถือว่าเป็นสัญญาณบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ตัวเลข GDP ของจีนในไตรมาส 2 ขยายตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 30 ปี โดยขยายตัวเพียง 6.2%YoY จากความเสี่ยงของสงครามการค้าที่ยังคงยืดเยื้อและการผ่อนคันเร่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในช่วงเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา
สหรัฐฯ ยิงโดรนของอิหร่าน สร้างแรงกดดันระหว่างสองประเทศให้ตึงเครียดมากขึ้น ในวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมาเรือรบสหรัฐฯ ยิงโดรนของอิหร่านในช่องแคบ Hormuz หลังจากโดรนดังกล่าวพยายามที่จะคุกคามเรือรบของสหรัฐฯ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่โดรนของสหรัฐฯ ถูกอิหร่านโจมตีเมื่อเดือนที่ผ่านมา สร้างความตึงเครียดในแถบตะวันออกกลาง
จับตาดูรายงานทบทวนแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจาก IMF ในวันที่ 23 ก.ค. คาดว่ายังคงกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
จับตาดูการประชุม ECB ในวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งคาดว่า ECB จะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมและอาจกลับมาทำ QE อีกครั้ง เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด
จับตาดูการประชุม BoJ ในวันที่ 30 ก.ค. ซึ่งคาดว่าจะคงนโยบายการเงินเดิมจากความจำกัดของเครื่องมือทางการเงิน
กลยุทธ์การลงทุน :
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET Index (SCBSET)
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Machine Learning Thai Equity (SCBMLT)
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ บิลเลียนแนร์ (SCBBLN)
“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น (SCBNK225)
“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ เอเชียน อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ฟันด์ (SCBAEM)
“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET50 INDEX (SCBSET50)
“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (SCBSE)
“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นโกลบอลเฮลธ์แคร์ (SCBGHC)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรปสมอลแคป (SCBEUSM)
