คุยเฟื่องเรื่องกองทุน : การลงทุนครั้งใหญ่ของอาลีบาบา

31 พฤษภาคม 2561

        ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แจ็ค หม่า (Jack Ma) หรือผู้ก่อตั้งบริษัทอาลีบาบา (Alibaba) E-Commerce ยักษ์ใหญ่ของโลก ได้เดินทางมาเยือนไทย พร้อมประกาศที่จะลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กว่าหมื่นล้านบาท เพื่อก่อตั้ง Smart Digital Hub และได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) 4 ฉบับกับรัฐบาลไทย โดยใน MOU ประกอบไปด้วยเรื่องการลงทุนใน Smart Digital Hub ซึ่งใช้ไทยเป็นจุดศูนย์กลางในการกระจายสินค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การพัฒนาผู้ประกอบการ SME ไทย ให้ปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิทัล การพัฒนาบุคลากรทั่วไปให้เข้าใจ  E-Commerce โดยจะร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และการพัฒนาระบบการท่องเที่ยวผ่านระบบดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งนโยบายต่างๆ สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่รัฐบาลพยายามผลักดันเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิทัล  แน่นอนครับย่อมมีผู้ประกอบการไทยที่มีทั้งจะได้รับประโยชน์และเสียประโยชน์จากการเข้ามาลงทุนครั้งใหญ่ของอาลีบาบาในครั้งนี้เช่นกัน

        หากเรามองถึงผลประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับ จะเห็นว่าเม็ดเงินลงทุนจากอาลีบาบาจะทำให้เกิดการจ้างงานและพัฒนาระบบ Logistic ของไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากนั้นการลงทุนทางด้าน E-Commerce จะเปิดโอกาสให้บุคลากรไทยมีโอกาสได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ซึ่งสามารถนำมาต่อยอดได้ในอนาคต ในส่วนด้านการค้าระหว่างไทยและจีนจะเติบโตมากขึ้น โดยการขายผ่านระบบแพลตฟอร์มของอาลีบาบาในจีน ซึ่งเห็นได้จากการที่ทุเรียนไทย 80,000 ลูก ขายผ่านเว็บไซต์ tmall.com หมดภายในเวลา 1 นาที สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการบริโภคในจีนได้ ทำให้สินค้าเกษตรของไทยสามารถส่งออกไปขายที่จีนได้ง่ายยิ่งขึ้น

         

        อย่างไรก็ตาม สินค้าจากจีนก็จะไหลทะลักเข้ามาขายที่ไทยได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยที่จะถูกกดดันจากการแข่งขันทางด้านราคาเนื่องจากสินค้าที่ผลิตจากจีนมักจะมีต้นทุนที่ถูกกว่า นอกจากนั้นพ่อค้าคนกลางไทยที่เคยสร้างผลกำไรจากการนำเข้าสินค้าจากจีนก็จะโดนผลกระทบโดยตรง เพราะพ่อค้าจีนสามารถขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มของ อาลีบาบาได้โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เห็นได้หลังจากอาลีบาบาได้เข้ามาซื้อบริษัทเว็บไซต์ลาซาด้า (Lazada) ซึ่งเป็นบริษัท E-Commerce ชื่อดังในไทย และมีสินค้าจาก Taobao มาขายโดยตรงแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าในด้านของผู้บริโภคซึ่งได้รับประโยชน์จากการมาลงทุนของอาลีบาบา เนื่องจากผู้บริโภคจะมีสินค้าให้เลือกซื้อมากขึ้นด้วยราคาที่ถูกลง

        การเข้ามาลงทุนในไทยของอาลีบาบา และแจ็ค หม่า ย่อมมองเห็นโอกาสการทำกำไรให้กับบริษัท ซึ่งการเข้ามาลงทุนในไทยนี้ทำให้อาลีบาบาจะได้ปริมาณการขายที่เพิ่มมากขึ้นจากประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการซื้อสินค้ากลับไปขายในประเทศจีนอีกด้วย นอกเหนือจากนั้นแล้วการที่บริษัทอาลีบาบาจะลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก บริษัทมีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากการยกเว้นภาษีรายได้นิติบุคคล 8 ปี และจ่ายภาษีเพียงครึ่งหนึ่งอีก 5 ปี รวมได้รับผลประโยชน์จากภาษีทั้งหมด 13 ปี เพราะฉะนั้นการเข้ามาลงทุนในไทยของแจ็ค หม่า นับว่าเป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลไทยที่จะต้องมีการเจรจาทั้งกับอาลีบาบาและประเทศจีน เพื่อที่จะสนับสนุนและปกป้องผู้ประกอบการไทยทั้งรายเล็กและรายใหญ่รวมถึงภาคเศรษฐกิจของไทยโดยรวม คราวนี้ก็คงจะต้องทำการบ้านกันหนักหน่อยนะครับ

 

โดย คุณสมิทธ์ พนมยงค์
       ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
       บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด