คุยเฟื่องเรื่องกองทุน : ความน่าสนใจของการลงทุนแบบ Theme

10 มกราคม 2561

        ในหลายปีที่ผ่านมาความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมใหม่ๆ หรือแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการลงทุนมากขึ้น ทำให้นักลงทุนเริ่มมองหารูปแบบการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งแนวคิดของการลงทุนแบบ Thematic Investment หรือการลงทุนแบบ Theme ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง  การลงทุนแบบ Theme นั้นมีความต่างจากการลงทุนทั่วไป คือ นักลงทุนจะวิเคราะห์การลงทุนจากแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะที่การลงทุนโดยปกตินักลงทุนมักจะพิจารณาการลงทุนจากผลตอบแทนในอดีตของตลาดหรือวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่ลงทุน ในปัจจุบันบริษัทจัดการกองทุนในประเทศไทยได้นำเสนอกองทุนประเภท Thematic ให้นักลงทุนเลือกลงทุนหลาย Theme ด้วยกันยกตัวอย่างเช่น

        การลงทุนจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรโลก (Global Demographics)  ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในอีก 50 ปีข้างหน้า โดยจะแบ่งได้เป็น 3 แนวโน้มประกอบไปด้วย ประชากรโลกจะมีจำนวนเพิ่มสูงมากขึ้น ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภคจะมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริหารการจัดการน้ำ พลังงานต่างๆ นอกเหนือจากนั้นจำนวนชนชั้นกลางที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในประเทศเกิดใหม่ก็จะทำให้ความต้องการใช้สินค้าอุปโภคบริโภค และการใช้โครงสร้างพื้นฐานเพิ่มสูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ยารักษาโรค สนามบิน ในขณะที่การขยายตัวของสังคมผู้สูงวัยเนื่องจากอายุเฉลี่ยของประชากรโลกสูงขึ้น จะทำให้ธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมการแพทย์ขยายตัวได้มากขึ้น เช่น ธุรกิจโรงพยาบาล บริษัทผลิตยารักษาโรค  เป็นต้น

         นอกจากนี้อีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่องในอีก 10 ปีข้างหน้า สืบเนื่องจากโครงสร้างประชากรโลกที่กำลังมีอัตราจำนวนผู้สูงวัยต่อประชากรที่เพิ่มมากขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก เช่น ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น ส่งผลให้อุตสาหกรรมต่างๆ เริ่มเกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน จึงเริ่มหันมาใช้หุ่นยนต์ (Robotics) ทำหน้าที่ทดแทนมนุษย์ในการผลิตสินค้าหรือแม้กระทั่งการให้บริการทางการแพทย์ โดยตัวอย่างที่เราเห็นได้ชัดคืออุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้หุ่นยนต์ในการประกอบส่วนต่างๆ ของรถยนต์แทนมนุษย์ เพราะฉะนั้น Theme การลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ (Robotics) จึงสามารถขยายตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรโลกด้วยเช่นเดียวกัน

         อีก Theme ของการลงทุนที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือ การเติบโตของการใช้งานเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในวิถีการใช้ชีวิตของเรา ยกตัวอย่างบริษัทที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตที่เราคุ้นเคย เช่น Google, Facebook Amazon, Line, Alibaba, Netflix, Airbnb, Uber ทุกวันนี้เราติดต่อสื่อสารผ่าน Application Line มากกว่าการสนทนาทางเสียงผ่านโทรศัพท์ แม้กระทั่งพฤติกรรมการซื้อสินค้าของเราที่หันไปซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผ่านทางบริษัท Amazon หรือ Alibaba ที่ได้รับความนิยมอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หรือการแชร์เรื่องราวของเราผ่าน Social Media เช่น Facebook ก็เป็นอีกพฤติกรรมของที่เพิ่มขึ้นมาในชีวิตประจำวันของเรา ทำให้บริษัทที่ให้บริการธุรกิจที่เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ มีการเติบโตในอัตราที่สูงมาก ดังนั้นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Digital จึงได้รับความสนใจต่อนักลงทุนเป็นอย่างมาก

         สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Theme Investment นั้น อาจจะมีความผันผวนได้สูง และเหมาะกับผู้ที่สามารถลงทุนได้ยาว เนื่องจากการลงทุนประเภทนี้เน้นลงทุนในการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มโครงสร้างทางเศรษฐกิจในอนาคต เพราะฉะนั้นน้ำหนักในการลงทุนแบบ Theme Investment นั้น ไม่ควรจะเป็นสัดส่วนใหญ่ของพอร์ต และควรจะลงทุนในหลายๆ theme เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

         อย่างไรก็ตามในการลงทุนทุกครั้ง นักลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อประโยชน์ของท่านเองนะครับ

 

โดย คุณสมิทธ์ พนมยงค์
       ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
       บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด